ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่ติดตามการควบคุมโรคโควิด 19 ในเรือนจำ จ.นราธิวาส นำกลยุทธ์ Bubble and Seal ปรับใช้ให้เหมาะสมกับพื้นที่ พร้อมเปิดรพ.สนามในเรือนจำ และมอบวัคซีนโควิดฉีดกลุ่มเสี่ยง 5,000 โดส
วันที่ 4 เมษายน 2564 ที่จังหวัดนราธิวาส นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์สุเทพ เพชรมาก ผู้ตรวจราชการเขตสุขภาพที่ 12 ลงพื้นที่ติดตามการบริหารจัดการควบคุมโรคโควิด 19 ในเรือนจำจังหวัดนราธิวาส พร้อมทั้งมอบวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 ให้จังหวัดนราธิวาสจำนวน 5,000 โดส เพื่อฉีดให้บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข/ เจ้าหน้าที่ด่านหน้า/ อสม. กลุ่มเสี่ยง รวมทั้งเจ้าหน้าที่เรือนจำทั้ง 73 คน
นพ.เกียรติภูมิให้สัมภาษณ์ว่า ในวันนี้ ได้ลงพื้นที่เพื่อสนับสนุนการทำงาน และวางแผนจัดการสถานการณ์ร่วมกับรองผู้ว่าราชการจังหวัด ราชทัณฑ์ ตำรวจและหน่วยงานในพื้นที่ ล่าสุดได้รับรายงานพบผู้ติดเชื้อโควิด 19 ในเรือนจำจังหวัดนราธิวาส รวม 116 ราย เป็นผู้ต้องขัง 92 ราย และเจ้าหน้าที่ในเรือนจำ 24 รายในจำนวนนี้ เป็นพยาบาลประจำเรือนจำ 1 ราย โดยมีเป้าหมายดูแลกลุ่มผู้ต้องขังที่ติดเชื้อเพื่อลดอัตราการป่วยตาย กลุ่มเจ้าหน้าที่เรือนจำเพื่อลดอัตราการป่วยตาย ลดการแพร่เชื้อ ส่วนกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ มีเป้าหมายลดการติดเชื้อ ส่วนผู้สัมผัสกว่า 1,000 ราย ได้มีการติดตามและปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคแล้ว
นพ.เกียรติภูมิกล่าวต่อว่า เรือนจำถือเป็นสถานที่มีความเสี่ยงสูง จึงเน้นการควบคุมโรคภายในเรือนจำ ซึ่งเป็นพื้นที่ปิด อยู่ห่างไกลชุมชน ควบคุมพื้นที่จำกัดการเข้าออกได้ง่าย สามารถนำยุทธศาสตร์ Bubble and Seal เช่นเดียวกับที่ใช้ควบคุมการติดเชื้อในโรงงาน จ.สมุทรสาครซึ่งได้ผลดีมาแล้ว มาปรับใช้ให้เหมาะสมกับพื้นที่ เพื่อควบคุมไม่ให้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มภายใน 28 วัน โดยมอบหมายให้นพ.อภิชาติ วชิระพันธ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค และนพ.นเรศฤทธิ์ ขันทะสีมา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร ที่มีประสบการณ์ในการบริหารจัดการสถานการณ์และการดูแลผู้ติดเชื้อ ทำงานร่วมกับกรมราชทัณฑ์ และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนราธิวาสบริหารจัดการในพื้นที่ต่อไป
นอกจากนี้ กรมราชทัณฑ์ได้จัดพื้นที่ในเรือนจำใหม่ให้เป็นโรงพยาบาลสนาม เบื้องต้นสามารถเปิดได้291 เตียง หากมีผู้ติดเชื้อจำนวนมากจะขยายสูงสุดได้เกือบ 900 เตียง โดยแยกผู้ติดเชื้อเข้ารักษาในโรงพยาบาลสนาม ส่วนผู้ที่มีอาการหนักจะส่งต่อรักษาที่โรงพยาบาล และแยกกลุ่มเปราะบางที่มีสภาพร่างกายอ่อนแอ ผู้สูงอายุ หรือมีโรคประจำตัว จำนวน 52 ราย ออกมาดูแลในพื้นที่เฉพาะ ส่วนนักโทษรอจำหน่ายจะเข้ารับการกักตัวใน Local Quarantine เป็นเวลา 14 วัน ก่อนกลับคืนสู่สังคม
นพ.เกียรติภูมิกล่าวต่อว่า สำหรับเวชภัณฑ์และอุปกรณ์ทางการแพทย์ จังหวัดนราธิวาส มั่นใจว่ามีเพียงพอ ทั้งยารักษา หน้ากากอนามัยทางการแพทย์สำรองไว้ใช้ได้ 2 เดือน หน้ากาก N95 ใช้ได้ 40 วัน ชุด Cover All ใช้ได้ 4 เดือน มีชุดตรวจเชื้อทางโพรงจมูก 3,000 ตัวอย่าง และส่วนกลางพร้อมสนับสนุนเพิ่มเติมให้ทันทีที่พื้นที่แจ้งความต้องการ
- 41 views