ลูกจ้าง-พนักงานกระทรวงสาธารณสุขร้องขาดความก้าวหน้า ไม่ได้รับเงินค่าตอบแทนฉ.11

ชมรมลูกจ้างและพนักงานกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยสหพันธ์แบคออฟฟิสหารือสธ. ขอตั้งกองสายงานสนับสนุนบริการเพื่อดูแลกลุ่มแบคออฟฟิสเฉพาะ ด้านที่ปรึกษารมช.สธ.รับเรื่องเผย สธ.อยากช่วยทุกคนแต่หลายอย่างติดไม่ได้อยู่อำนาจกระทรวงฯ

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 6 ต.ค. 63 ที่กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ชมรมลูกจ้างและพนักงานกระทรวงสาธารณสุข และสหพันธ์แบคออฟฟิส จำนวนกว่า 15 คนเดินทางเข้าเรียกร้องให้กระทรวงสาธารณสุขพิจารณาดูแลความก้าวหน้าของลูกจ้างและพนักงานกระทรวงสาธารณสุข รวมทั้งเรียกร้องปัญหาจากการที่ไม่ได้รับเงินค่าตอบแทนฉบับที่ 11 และเงินตามภาระงาน หรือ P4P โดยมีนายธนิตพล ไชยนันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เข้ารับเรื่องดังกล่าวแทน

นายธนิตพล ไชยนันทน์

นายธนพล ชารี ประธานชมรมลูกจ้างและพนักงานกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า การมาครั้งนี้เพื่อขอความเห็นใจ เพราะการบรรจุตำแหน่งข้าราชการโควิด ยังมีกลุ่มที่ปฏิบัติงานแต่ไม่ได้รับการคัดเลือก คือ กลุ่มบุคลากรสายสนับสนุนที่นอกเหนือจาก 24 สายงาน โดยขอความเมตตากับพวกเรา ซึ่งเป็นลูกจ้าง ลูกจ้างชั่วคราว พนักงานราชการ พนักงานกระทรวงสาธารณสุข ตามข้อเรียกร้อง ประกอบด้วย 1. ขอเรียกร้องให้คืนตำแหน่งลูกจ้างประจำที่ถูกยุบเลิกตามมติครม. เมื่อมีลูกจ้างประจำเกษียณอายุราชการให้กลับคืนมาบรรจุให้ลูกจ้างและพนักงานกระทรวงสาธารณสุข ให้ได้รับการบรรจุเป็นลูกจ้างประจำ

2.ขอเรียกร้องให้มีการบรรจุลูกจ้างและพนักงานกระทรวงสาธารณสุขที่มีวุฒิการศึกษาและปรับวุฒิการศึกษาให้เป็นปัจจุบันและพิจารณาให้ลูกจ้างสายสนับสนุนที่มีลักษณะงาน และมีตำแหน่งตรงกันกับสายวิชาชีพให้ได้รับการบรรจุเป็นข้าราชการในอัตราที่เหลือจากการบรรจุข้ารากชารในรอบที่ผ่านมา

“3.ขอเรียกร้องให้มีการทบวนการเบิกจ่ายค่าตอบแทนฉบับที่ 11 และP4P ให้ครอบคลุมบุคลากรทุกตำแหน่งที่ปฏิบัติในทั้งโรงพยาบาลศูนย์โรงพยาบาลทั่วไป โรงพยาบาลชุมชน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ศูนย์สุขภาพชุมชน สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ และหน่วยงานอื่นๆในสังกัดกระทรวงฯ ซึ่งที่ผ่านมากลุ่มสายสนับสนุนไม่ได้เงินตรงนี้เลย” นายธนพล กล่าว และ4.ขอเรียกร้องการทบทวนการจ่ายค่าตอบแทนด้านความเสี่ยงภัยให้แก่บุคลากรสาธารณสุขที่ปฏิบัติงานใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ จ.ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และ 4 อำเภอในจ.สงขลา คือ จะนะ นาทวี สะบ้าย้อยและเทพา

นอกจากนี้ ยังมีประเด็นอื่นๆ อย่างกรณีการบรรจุข้าราชการโควิด-19 ที่ผ่านมาสายสนับสนุนได้รับคัดเลือกเพียงนักวิชาการคอมพิวเตอร์ แต่เจ้าพนักงานเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งทำงานควบคู่กันแต่กลับไม่ได้ถูกเลือกในการบรรจุเช่นกัน

นายธนพล ชารี

ด้านนายชาติชาย เดชรัตน์ ประธานสหพันธ์แบคออฟฟิศ กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ที่ผ่านมากลุ่มบุคลากรปฏิบัติงานของสายงานสนับสนุนบริการ ไม่ได้รับการเหลียวแลและบรรจุเป็นข้าราชการ ทางสหพันธ์ฯได้ยื่นหนังสือเรียกร้องบไปถึง พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ณ ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล ทำเนียบรัฐบาล โดยขอให้นายกรัฐมนตรี พิจารณาสั่งการให้ นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และปลัดกระทรวงสาธารณสุข พิจารณาจัดสรรการบรรจุเป็นข้าราชการของสายงานสนับสนุนด้วย จากตำแหน่งที่เหลือจากการบรรจุข้าราชการในครั้งนี้ รวมไปถึงข้อเรียกร้องต่างๆ อาทิ การพิจารณาการบรรจุ พนักงานกระทรวงสาธารณสุข ลูกจ้างชั่วคราว สายงานสนับสนุนบริการ ในตำแหน่ง “ที่ไม่มีวุฒิ” ให้บรรจุเป็นลูกจ้างประจำ การพิจารณาเรื่องความก้าวหน้าของข้าราชการ ตำแหน่ง “นักจัดการงานทั่วไปโรงพยาบาลชุมชน” ให้มีความก้าวหน้าได้ถึงระดับชำนาญการพิเศษเหมือนกับข้าราชการกรมอื่นๆ ในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ทุกระดับของโรงพยาบาลชุมชน

“ รวมทั้งเรายังมีข้อเสนอ ขอให้สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข จัดตั้งกองสายงานสนับสนุนบริการขึ้นมาใหม่อีก 1 กอง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ดูแลข้าราชการ ลูกจ้างประจำ พนักงานราชการ พนักงานกระทรวงสาธารณสุข ลูกจ้างชั่วคราวสายสนับสนุน เพราะดูเหมือนที่ผ่านมาสายสนับสนุนจะไม่ค่อยได้รับความสนใจ และที่ผ่านมาตนทำหนังสือถึงกระทรวงฯ ถึงผู้บริหารก็ไม่มีการตอบรับ หรือให้เข้าพบเลย” นายชาติชาย กล่าว

นายธนิตพล กล่าวระหว่างรับเรื่อง ว่า ตนทราบและเข้าใจดี และพร้อมนำเรื่องต่างๆ ไปพิจารณา แต่หลายเรื่องไม่ได้อยู่ที่อำนาจของกระทรวงสาธารณสุข ต้องขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย โดยเฉพาะต้องอยู่ที่ ก.พ. อย่างไรก็ตาม มีกลุ่มที่เรียกร้องมากกว่า 72 สายงาน ซึ่งทางกระทรวงฯ พยายามอย่างเต็มที่ แต่ด้วยตำแหน่งมีจำกัด ซึ่งขณะนี้ก็อยู่ระหว่างการพิจารณาช่วยเหลือตามขั้นตอน และความเป็นไปได้ตามกรอบอำนาจของกระทรวงสาธารณสุข