ลุยสอบคลินิกส่อเบิกงบบัตรทองผิดปกติเพิ่มล็อต 3 อีก 106 แห่ง หลังพบทุจริตแล้ว 82 แห่งจากคลินิกและสถานพยาบาลคู่สัญญาทั้งหมด 200 แห่งในกทม. ขณะที่ผู้ป่วยบัตรทองที่รับผลกระทบมี 30% เหตุต้องรับยาต่อเนื่อง ส่วนอีก 70% ยังร่างกายแข็งแรง
เมื่อวันที่ 25 ก.ย. นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีคลินิกชุมชนอบอุ่น ถูกยกเลิกสัญญาเนื่องจากพบการทุจริตงบบัตรทอง ว่า การยกเลิกสัญญากับคลินิกชุมชนอบอุ่นและโรงพยาบาลเอกชนที่มีความผิดปกติในการเบิกจ่ายเงินกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติว่าการดำเนินการมี 3 ล็อต ล็อตแรกยกเลิกไปแล้ว 18 แห่ง ล็อตที่ 2 จำนวน 64 แห่ง และล็อตที่ 3 อยู่ระหว่างการตรวจสอบอีก 106 แห่ง โดยคาดว่าจะมีข้อสรุปภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ ซึ่งความเสียหายจากการที่คลินิกเบิกงบเกินความเป็นจริงนั้น มีมูลค่าประมาณ 195 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวถามว่าสรุปแล้วมีประชาชนผู้มีสิทธิบัตรทองที่ได้รับผลกระทบจำนวนเท่าไหร่ จากการยกเลิกคลินิกทุจริตงบครั้งนี้ นพ.ศักดิ์ชัย กล่าวว่า หากนับประชากรในพื้นที่ที่อยู่ในคลินิกหรือสถานพยาบาลที่พบการทุจริตบัตรทองรวมทุกล็อตที่มีการตรวจสอบมีประมาณเกือบ 2 ล้านคน แต่ที่ได้รับผลกระทบจากการยกเลิกคู่สัญญา และเป็นผู้ป่วยต้องรักษาเร่งด่วน และรับยาอย่างต่อเนื่องมีประมาณ 27-30% หรือคิดเป็นประมาณกว่า 8 แสนคน ซึ่งกลุ่มนี้ต้องได้รับยาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งต้องรับการรักษาเร่งด่วน เช่น มีนัดผ่าตัดล่วงหน้า ต้องรับเคมีบำบัด กลุ่มผู้ป่วยที่ต้องฟอกไต กลุ่มผู้ป่วยที่ต้องได้รับยาต้านไวรัสอย่างต่อเนื่อง เป็นต้น ซึ่งทาง สปสช. ได้มีการประสานผู้ป่วยเพื่อจัดหาหน่วยบริการมารองรับ
“ขณะที่ประชากรกลุ่มใหญ่ๆ ประมาณ 70% เป็นประชากรที่ร่างกายยังแข็งแรงดี ไม่ได้ป่วย แต่ สปสช.จะเร่งจัดหาหน่วยบริการสำรองให้กรณีที่อาจเกิดเจ็บป่วยขึ้นมา โดยคนกลุ่มนี้จะอยู่ในกลุ่ม “สิทธิว่าง” ซึ่งถือเป็น “สิทธิพิเศษ” สามารถไปรับบริการที่โรงพยาบาลของรัฐหรือเอกชนหรือหน่วยบริการอื่นๆ ที่ร่วมโครงการกับ สปสช.ได้ทุกแห่ง เพียงแต่ที่ผ่านมาการประชาสัมพันธ์อาจไม่ทันการณ์ จึงต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ แต่ล่าสุดได้รับความร่วมมือจากทางกรุงเทพมหานคร ซึ่งมีศูนย์บริการสาธารณสุขตามเขตต่างๆ ให้การช่วยเหลือครั้งนี้แล้ว ” นพ.ศักดิ์ชัย กล่าว
เมื่อถามถึงกรณีจะมีการจัดการปัญหาเรื่องการจัดหาสถานพยาบาลให้ผู้ป่วยสิทธิว่างแล้วเสร็จเมื่อไหร่ นพ.ศักดิ์ชัย กล่าวว่า ขณะนี้เร่งดำเนินการอยู่ แต่เราจะไม่ได้แค่หาสถานพยาบาลเท่านั้น จะมีการยกระดับคุณภาพการบริการเพิ่มเติม และจะมีการออกแบบการดำเนินการรูปแบบใหม่ๆ เพิ่มขึ้น ซึ่งขอเวลาประมาณ 2 เดือน คาดว่าจะดำเนินการได้
เมื่อถามถึงกรณี พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผอ.รพ.มงกุฎวัฒนะ เสนอแนวทางวิสาหกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise) ซึ่งเป็นคลินิกชุมชนอบอุ่นที่จะให้ผู้มีสิทธิบัตรทองในเขตนั้นๆ เป็นเจ้าของในการถือหุ้น นพ.ศักดิ์ชัย กล่าวว่า เป็นอีกรูปแบบที่น่าสนใจ ซึ่งจะมีการพิจารณาหลายๆรูปแบบ แต่ทั้งหมดต้องดูระเบียบวิธีปฏิบัติว่า ทำได้มากน้อยแค่ไหนด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคลินิกและสถานพยาบาลที่เป็นคู่สัญญากับ สปสช. มีทั้งหมด 200 แห่งเฉพาะในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร และเป็นคลินิกทันตกรรม 100 แห่ง ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบการทุจริตเบื้องต้นพบคลินิกเบิกงบบัตรทองเกินจริงจำนวน 82 แห่ง ส่วนล็อตที่ 3 อยู่ระหว่างการตรวจสอบอีก 106 แห่ง ซึ่งพบการเบิกจ่ายผิดปกติและมีการแจ้งความร้องทุกข์แล้ว ขณะที่คลินิกทันตกรรมพบเบิกงบเกิน 6 แห่ง
- 31 views