กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับเครือข่ายสนับสนุนทางเลือกของผู้หญิงที่ท้องไม่พร้อมและสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส) จัดเสวนาและรณรงค์ชีวิตและสิทธิของหญิงท้องไม่พร้อม เนื่องในวันยุติการตั้งครรภ์
วันที่ 18 ก.ย.ที่ผ่านมา นพ.บัญชา ค้าของ รองอธิบดีกรมอนามัย เป็นประธานแถลงข่าวความสำเร็จของโครงการเพื่อสร้างเครือข่ายบริการทางเลือกที่ปลอดภัยสำหรับวัยรุ่นและผู้หญิงตั้งครรภ์ไม่พร้อม ร่วมกับ รศ. ดร.กฤตยา อาชวนิจกุล ผู้ประสานงานเครือข่ายสนับสนุนทางเลือกของผู้หญิงที่ท้องไม่พร้อม และนายชาติวุฒิ วังวล ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงทางสุขภาพ (สำนัก 2) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส) ณ โรงแรมเอเชีย กรุงเทพมหานคร
นพ.บัญชา ค้าของ รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า วันที่ 28 กันยายนของทุกปี เป็นวันรณรงค์เพื่อเข้าถึงการยุติการตั้งครรภ์อย่างปลอดภัยและถูกกฎหมาย โดยมีการจัดกิจกรรมรณรงค์พร้อมกันในหลายประเทศทั่วโลก เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างความเข้าใจกับสาธารณชนและผู้กำหนดนโยบาย เกี่ยวกับสภาพปัญหาและทางออกในเรื่องการเข้าถึงการยุติการตั้งครรภ์ที่ปลอดภัยและถูกกฎหมาย เพื่อคุ้มครองชีวิตของผู้หญิงที่ยังต้องเสี่ยงอันตรายจากการยุติการตั้งครรภ์ที่ไม่ปลอดภัย และเพื่อขจัดปัญหาที่มีผู้หญิงทั่วโลกต้องเสียชีวิตลงทุกปี จากสาเหตุการยุติการตั้งครรภ์ที่ไม่ปลอดภัย ซึ่งจากข้อมูลบริการ 1663 พบว่า ปี 2561 การปรึกษาเรื่องท้องไม่พร้อม จำนวน 27,048 คน และ ปี 2562 จำนวน 16,457 คน โดยสาเหตุความไม่พร้อมเกิดจาก 3 ด้าน คือ 1) ด้านครอบครัว เช่น ถูกทอดทิ้ง แยกทาง คู่ไม่รับผิดชอบหรือสัมพันธภาพกับคู่ไม่ดี 2) ด้านเศรษฐกิจ เช่น รายได้ไม่เพียงพอ และ 3) ด้านสังคม เช่น การตั้งครรภ์จะเป็นอุปสรรคต่อการศึกษาหรือการทำงาน ดังนั้น ในปี 2563 นี้ ประเทศไทยโดยโครงการพัฒนาเครือข่ายบริการที่ปลอดภัย จึงได้ร่วมกันใช้แนวทางหลักในการรณรงค์เดียวกันกับนานาชาติคือ “การยุติการตั้งครรภ์คือบริการสุขภาพ” (Abortion is health care)
“ทั้งนี้ เป้าหมายในการพัฒนาเครือข่ายบริการทั้งตั้งครรภ์ต่อและยุติการตั้งครรภ์ให้มีความเข้มแข็ง เข้าถึงได้ ปลอดภัยและเป็นมิตร เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและสิทธิของหญิงท้องไม่พร้อม จึงดำเนินการร่วมกันภายใต้ 4 ข้อคือ 1) พัฒนาความเข้มแข็งและเครือข่ายหน่วยบริการที่ดูแลช่วยเหลือวัยรุ่นและผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ต่อ 2) ขยายบริการยุติการตั้งครรภ์ทางการแพทย์ที่ปลอดภัยอย่างทั่วถึงด้วยการพัฒนาศักยภาพและความเข้มแข็งของเครือข่าย R-SA 3) สร้างความเข้าใจสาธารณะต่อสิทธิในทางเลือกของวัยรุ่นและผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ไม่พร้อมโดยใช้เครื่องมือสื่อสารออนไลน์ การรณรงค์ และเวทีเสวนาต่างๆ 4) จัดการองค์ความรู้ (Knowledge Management) เพื่อนำไปสู่การพัฒนาและผลักดันข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย และเพื่อให้หญิงท้องไม่พร้อมเข้าถึงการยุติการตั้งครรภ์ที่ปลอดภัยและถูกกฎหมาย” รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าว
นายชาติวุฒิ วังวล ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงทางสุขภาพ สสส. กล่าวว่า สสส. ร่วมกับภาคีเครือข่ายให้ความรู้กับผู้หญิง เพื่อให้เข้าถึงสิทธิตามกฎหมาย พ.ร.บ. ป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น พ.ศ. 2559 นอกจากนี้ยังเน้นย้ำการให้ความรู้แก่เด็กและเยาวชนเรื่องการมีสุขภาวะทางเพศ การมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย มองถุงยางอนามัยเป็นเหมือนอุปกรณ์ป้องกันการตั้งครรภ์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ พร้อมกับส่งเสริมให้ผู้ปกครองมีทักษะการสื่อสารเชิงบวกกับบุตรหลาน โดยเฉพาะเรื่องเพศ โดยเรามีตัวช่วยสำหรับผู้ปกครองหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ “คุยเรื่องเพศ.com” “www.lovecarestation.com” หรือจะเป็นแฟนเพจ “คุยเปิดใจ ลูกหลานปลอดภัย”
- 8 views