ประธานชมรม อสม.จ่อยื่นหนังสือ "อนุทิน" ทำเนียบรัฐบาล 29 ก.ค. ให้กำลังใจพร้อมดันตัวเลขเดิมค่าตอบแทน-เสี่ยงภัยโควิดคงเดิม 500 บาทรวม 19 เดือน
เมื่อวันที่ 26 ก.ค. ที่โรงแรมเดอะ เล็คกาซี่ นายจำรัส คำรอด ประธานชมรมอาสาสมัครสาธารณสุขแห่งประเทศไทย และนายกสมาคมอาสาสมัครสาธารณสุขจังหวัดฉะเชิงเทรานัดหารือและแถลงข่าวกรณีสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ตัดงบประมาณอสม.กรณีโควิด 19 เดือนละ 500 บาท จาก 19 เดือน เหลือ 7 เดือน ว่า ที่ผ่านมา อสม.เป็นส่วนหนึ่งในการทำงานควบคุมป้องกันโรคติดเชื้อโควิด -19 โดยไม่ได้เรียกร้องอะไร ซึ่งต้องขอบคุณที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มีการเสนอว่าจะให้ค่าตอบแทนเป็นค่าเสี่ยงภัยเดือนละ 500 บาท เป็นเวลา 19 เดือน ตั้งแต่ มี.ค.2563 ถึง ก.ย.2564 ซึ่งผ่านมาจนถึงตอนนี้ ยังไม่ได้ จึงมีความสงสัยว่ามีปัญหาอะไรหรือไม่
“ล่าสุดทราบว่าทางสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ จะตัดค่าตอบแทนดังกล่าวเหลือเพียง 7 เดือนเท่านั้น จึงอยากจะให้กำลังใจรัฐบาลในการผลักดันการจ่ายในอัตราเดิมที่เคยระบุไว้คือ 500 บาท นาน 19 เดือน เพื่อเข้าครม.ให้สำเร็จ โดยเวลา 07.30 น. วันที่ 29 ก.ค.จะไปยื่นหนังสือถึงนายอนุทิน ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อให้กำลังใจที่ช่วยผลักดันเรื่องนี้ พร้อมแนบรูปแบบการทำงาน ของเรา” นายจำรัส กล่าว
นายจำรัส กล่าวว่า สภาพัฒน์ฯ มองในมุมของตัวเอง โดยไม่เห็นว่าเราต้องออกไปเสี่ยงภัย เคาะประตูบ้านค้นหาคนเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 ถูกสุนัขกัดบ้าง อุบัติเหตุบ้าง ทุกวันนี้อสม.ยังไม่หยุดทำงานเลย เรายังต้องไปดูแลควบคุม ป้องกันโรคในงานบุญ งานบวช งานศพ การเปิดโรงเรียนต่างๆ เราก็ไปร่วมดูแลคัดกรอง บางครั้งหมู่บ้านไม่มีเครื่องวัดไข้ ก็ควักเงินตัวเองซื้อ เครื่องละ 3,000 บาท อีกทั้งการไปคัดกรองที่ต่างๆ ก็มีค่าน้ำมัน ค่าเดินทาง กลับมา ครอบครัวมีปัญหาเรื่องการกิน การอยู่ ต้องแยกห้องนอน แยกสำรับอาหาร และข้าวของเครื่องใช้ บางคนอบครัวทำงานจิตอาสามากๆ ต้องหยุด เพื่อหันมาดูแลครอบครัวตัวเองบ้าง แต่สภาพัฒน์ฯ กลับบอกว่าค่าเสี่ยงภัยที่จะให้อสม.นั้นมากเกินไปเลยจะตัดเหลือ 7 เดือน จริงๆ เราทำงานจิตอาสาถ้าบอกว่าจะไม่ให้ เราก็ไม่ว่าอะไร แต่นี่บอกว่าจะให้เอง ดังนั้นอยากให้สภาพัฒน์ส่งตัวแทนมาคุยกับเรา
"ถ้าสุดท้ายแล้วจะตัดลดเงินค่าเสี่ยงภัยเราเหลือ 7 เดือนจริงๆ หรือไม่ให้อะไรเราเลยก็ไม่ว่า เพราะเราก็ทำงานจิตอาสามาตลอดอยู่แล้ว แค่ผิดหวัง แต่ฝากผู้ใหญ่ เมื่อท่านพูดอะไรแล้ว อสม.ก็มีความหวัง ดังนั้นครั้งหน้า อยากจะให้อะไรอสม. ให้ปรึกษาเราก่อน ไม่ใช่ว่าพูดว่าจะให้แล้ว แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ แบบนี้ใช้ไม่ได้ จริงๆ เราเข้าใจว่าเงินนี้เป็นเงินกู้ เราเองก็ไม่ได้อยากได้ แต่วิถีชีวิตใหม่ มีอะไรที่ต้องดูแลมากขค้น ต้องมีอะไรซับพอร์ตเราหรือไม่ ซึ่งเราทำงานดูแลประชาชนตั้งแต่เกิด จนถึงเสียชีวิต ก็อยากให้สภาพัฒน์ฯ ทราบและเห็นใจเราด้วย" นายจำรัส กล่าว
ด้าน นายอัมรินทร์ นิ่มนวล ประธานอสม.จังหวัดชลบุรี กล่าวว่า ไม่ว่าจะมีมติอย่างไร เรารับได้หมด แต่การทำงานของอสม.จะมีมาตรฐานการทำงานเหมือนเดิม เราไม่เอาเงินมาเป็นตัวต่อรอง เราเป็นนักรบด่านหน้าก็ต้องทำงานเหมือนเดิม แม้ว่าสภาพัฒน์ จะเห็นความสำคัญเราหรือไม่ แต่ชมรมฯ ยังเห็นความสำคัญของอสม.เอง เราทำงานด่านหน้า 20-30 คน ในการติดตาม ค้นหาคนเสี่ยงติดเชื้อมีเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ 2-3 คน มาร่วม หากเกิดการติดเชื้อพวกเราติดก่อน ดังนั้นอยากให้สภาพัฒน์ฯ ที่นั่งอยู่ในห้องแอร์ ได้เข้าใจตรงนี้ด้วย
อ่านข่าวเกี่ยวข้อง :
- 19 views