เกาหลีใต้ติดตามกลุ่มเสี่ยงอิแทวอน 2 พันคน หลังติดเชื้อพุ่ง 102 ราย

สถานการณ์โควิดตปท.ยังสูง ล่าสุดผู้ป่วยจากสถานบันเทิงอิแทวอนติดเชื้อ 102 ราย หลังชาย 29 ปีป่วยแต่ไปผับถึง 5 แห่ง เร่งติดตามกลุ่มเสี่ยง ขณะที่อู่ฮั่นเตรียมตรวจเชื้อชาวเมืองทั้งหมด

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 13 พ.ค. 2563 ที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรน่า (ศบค.) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. กล่าวถึงสถานการณ์การติดเชื้อโควิดในต่างประเทศ ว่า ข้อมูล ณ วันที่ 12 พ.ค.2563 พบผู้ป่วยยืนยันทั่วโลกจำนวน 4,342,345ราย รักษาอยู่ในรพ. 46,936 ราย หายและกลับบ้านแล้วจำนวน 1,601,847 ราย เสียชีวิต 292,893 ราย

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สำหรับผู้เสียชีวิตกว่า 2.9 แสนรายนั้น พบว่าเป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ที่เพิ่มเข้ามาจากกลุ่ม 10 ประเทศ โดยส่วนใหญ่พบที่สหรัฐ รองลงมาบราซิล สหราชอาณาจักร เม็กซิโก ฝรั่งเศส สเปน แคนดา อิตาลี อินเดีย รัสเซีย ต้องขอแสดงความเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น และขอเป็นกำลังใจในการผ่านพ้นโรคระบาดนี้ไปด้วยกัน อย่างไรก็ตาม ในส่วนผู้ป่วยสะสมที่พบมากในกลุ่มประเทศอาเซียนและเอเชีย พบว่าอินเดียพบผู้ป่วยสะสมสูงถึง 74,292 ราย รองลงมาเป็นปากีสถาน สิงคโปร์ บังกลาเทศ ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เกาหลีใต้ มาเลเซีย และไทย

“ส่วนสถานการณ์ในต่างประเทศที่ต้องจับตามองหลังตัวเลขเริ่มดีขึ้น โดยล่าสุดมีรายงานจีนที่พบผู้ป่วยใหม่ 6 รายที่อู่ฮั่น และเป็นการนำเข้าจากต่างประเทศ 7 ราย จึงมีการตัดสินใจตรวจเชื้อประชากรในอู่ฮั่นทั้งหมดจำนวน 11.08 ล้านคน ส่วนเกาหลีใต้ขณะนี้ ยอดผู้ป่วยพุ่งในสถานบันเทิงย่านอิแทวอน ล่าสุดติดเชื้อ 102 ราย เร่งติดตามตัวกลุ่มเสี่ยง 2 พันคน ยังไม่รายงานตัวกรณีไนต์คลับย่านอิแทวอนของกรุงโซล มีชายอายุ 29 ปี ป่วยโควิดไปใช้บริการสถานบันเทิง 5 แห่ง ช่วงต้นพ.ค.ที่ผ่านมา ล่าสุดจำนวนผู้ป่วยสะสมของกลุ่มสถานบันเทิงมี 102 คน ขณะนี้ทราบตัวบุคคลของผู้ไปเที่ยวสถานบันเทิงย่านดังกล่าวแล้ว 10,905 ราย ตรวจไปแล้วราว 7,000 ราย โดยที่ยังมีอีกราว 2,000 รายยังไม่มารายงานตัว ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังติดตามหาโดยใช้ข้อมูลจากโทรศัพท์และธุรกรรมผ่านบัตรเครดิต" 

กรณีเยอรมัน มีมาตรการผ่อนคลายทั่วประเทศ เปิดธุรกิจขนาดเล็กและโรงเรียน แต่ล่าสุดพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 933 รายในวันเดียว จึงมีรายงานว่าอาจต้องพิจารณาการผ่อนคลาย โดยอาจต้องกลับมาล็อกดาวน์อีกครั้ง จะเห็นได้ว่าแต่ละประเทศมีมาตรการแตกต่างกันมา ซึ่งไทยเราก้ต้องจับตามองในส่วนของเรา ต้องดูสถานการณ์และปรับตัวตลอด