พบครอบครัวไร้บัตรประชาชนทั้งพ่อ-ลูก-สะใภ้ อาศัยในเพิงกลางทุ่ง เขตคลองสามวา หัวหน้าครอบครัวเผยบัตรประชาชนหมดอายุแล้วไม่ได้ไปต่อ ตอนนี้อยากได้เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ แต่จนใจไม่มีเงินกลับบ้านเดิมไปขอทำบัตรใหม่

นายสำเนียง โทมา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ เจ้าหน้าที่ศูนย์ประสานงานหลักประกันสุขภาพประชาชนคลองสามวา และเจ้าหน้าที่จากสำนักงานเขตคลองสามวา ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้ความช่วยเหลือครอบครัวของนายสำเนียง โทมา อายุ 62 ปี ภูมิลำเนาเดิมเป็นชาวบ้าน ต.บ้านฝาง อ.บ้างฝาง จ.ขอนแก่น ซึ่งได้มาปลูกเพิงพักกลางทุ่งในซอยประชาร่วมใจ 57 เขตคลองสามวา กทม. โดยครอบครัวนี้มีฐานะยากไร้ อีกทั้งยังมีปัญหาทางสถานะเนื่องจากนายสำเนียงไม่มีบัตรประชาชน ทำให้ลูกไม่มีบัตรประชาชนตามไปด้วย

นายสำเนียง กล่าวว่า ตนออกจากบ้านตั้งแต่ปี 2517 เพื่อไปทำงานรับจ้างตัดอ้อยใน จ.กาญจนบุรี เคยกลับไปทำบัตรประชาชน ณ ที่ว่าการอำเภอบ้านฝางในปี 2520 แต่เมื่อบัตรประชาชนหมดอายุก็ไม่ได้ไปทำบัตรใหม่อีกและไม่ทราบว่าถูกญาติแจ้งย้ายออกจากทะเบียนบ้านเดิมไปแล้ว จนเมื่อปี 2525 ได้แต่งงานและหลังจากนั้นก็ทยอยมีลูกจำนวน 4 คน ตอนที่ลูกคลอดออกมานั้นนายจ้างบอกว่าจะไปดำเนินการเรื่องเอกสารการแจ้งเกิดให้ ตนจึงวางใจว่าเถ้าแก่จัดการให้แล้วทั้ง ๆ ที่ในความเป็นจริงแล้วเป็นการโกหกของนายจ้าง ไม่ได้มีการดำเนินการเกิดขึ้นจริงแต่อย่างใด ทำให้ลูกของตนไม่มีเอกสารการแจ้งเกิดและไม่สามารถทำบัตรประชาชนได้

"มีลูกคนโตคนเดียวที่มีบัตรประชาชนที่แม่เขาไปทำให้ แต่ลูกคนที่ 2 3 และ 4 ไม่มีบัตร ไม่มีเอกสารอะไรเลย" นายสำเนียง กล่าว

ทั้งนี้ ในปี 2550 นายสำเนียงได้เดินทางกลับไปที่ อ.บ้านฝางอีกครั้งเพื่อขอทำบัตรประชาชนให้ลูก โดยกู้ยืมเงินเถ้าแก่มา 4 หมื่นบาทเพื่อทำเรื่องของตรวจ DNA แต่เนื่องจากสถานะทางทะเบียนของนายสำเนียงก็มีปัญหาเพราะถูกแจ้งย้ายออกจากทะเบียนบ้านเดิมโดยไม่รู้ตัวและไม่มีการแจ้งย้ายเข้าที่ไหน ขณะเดียวกันบัตรประชาชนเดิมก็หมดอายุไปนานแล้ว ดังนั้นเจ้าหน้าที่อำเภอจึงแนะนำให้จัดการกับสถานะของตัวเองให้เรียบร้อยก่อนแล้วจึงค่อยดำเนินการทำบัตรประชาชนให้ลูกอีกครั้ง

อย่างไรก็ดี เนื่องจากการดำเนินการในครั้งนั้นได้กู้เงินนายจ้างมาแล้ว นายจ้างจึงบังคับให้ทำงานใช้หนี้ให้หมดก่อนจึงจะปล่อยให้กลับมาทำบัตรประชาชนอีก เมื่อเวลาผ่านไปนายสำเนียงก็เลยไม่ได้กลับมาดำเนินการต่อ อีกทั้งมีการเปลี่ยนนายจ้างและย้ายที่อยู่หลายครั้งจนสุดท้ายจึงมาอยู่ในเพิงกลางทุ่งในซอยประชาร่วมใจ 57 เขตคลองสามวา นั่นเอง

ทั้งนี้ปัจจุบัน นายสำเนียงอาศัยอยู่ในเพิงกลับลูกคนที่ 2 และ 3 พร้อมลูกสะใภ้และหลาน รวม 6 ชีวิต ส่วนลูกคนโตอาศัยอยู่ใน จ.กาญจนบุรี และลูกคนที่ 3 อยู่กับสามีในบริเวณเขตคลองสามวาเช่นกัน ซึ่งนอกจากนายสำเนียงและลูกจะไม่มีบัตรประชาชนแล้ว ลูกสะใภ้ก็ไม่มีบัตรประชาชนเช่นกัน

นายสำเนียง กล่าวว่า ตนอยากทำบัตรประชาชนให้ลูกเพราะเคยสัญญาไว้ และหากได้บัตรประชาชนก็หวังว่าจะได้เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุมาใช้จ่ายในการดำเนินชีวิต อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่มีเงินเดินทางกลับไปที่ขอนแก่น

ด้านเจ้าหน้าที่เขตคลองสามวาซึ่งลงพื้นที่ในครั้งนี้ให้คำแนะนำว่า กรณีของนายสำเนียงถูกย้ายออกจากทะเบียนบ้าน ดังนั้นแนะนำให้กลับไปที่ขอนแก่นเพื่อแจ้งย้ายเข้าทะเบียนบ้านของญาติก่อนเพื่อให้ญาติเป็นผู้ยืนยันตัวบุคคล เมื่อแจ้งย้ายเข้าแล้วก็สามารถออกบัตรประชาชนให้ได้เลยเพราะมีฐานข้อมูลอยู่แล้ว จากนั้นจึงค่อยขอทำบัตรประชาชนให้ลูก ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้ไปตรวจ DNA มาแล้ว แนวทางนี้จะง่ายกว่ามาทำบัตรที่เขตคลองสามวาซึ่งจะต้องมีขั้นตอนการยืนยันตัวบุคคลที่ซับซ้อนกว่า

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ศูนย์หลักประกันสุขภาพประชาชนคลองสามวาเดินหน้าช่วยครอบครัวไร้บัตรประชาชน