หญิงไทยเชื้อสายจีนวัย 57 เพิ่งได้บัตรประชาชนเมื่อเดือน ก.ย. 2562 เผยรู้สึกโล่งใจที่ได้บัตรประชาชนเพราะทำให้ได้รับสวัสดิการจากรัฐเหมือนคนไทยคนอื่น ๆ แล้ว ล่าสุดขึ้นทะเบียนสิทธิบัตรทองเสร็จก็ใช้สิทธิไปโรงพยาบาลเพื่อรักษาอาการปวดข้อมือทันที

น.ส.ปราณี สอยทรัพย์ หรือ ม่วยยิ้น แซ่หลิว ประชาชนชาว อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี อายุ 57 ปี หนึ่งในผู้ที่ไม่มีบัตรประชาชนเนื่องจากความผิดพลาดของบิดาในขั้นตอนการแจ้งเกิดในอดีต และเพิ่งประสบความสำเร็จในการขอทำบัตรประชาชนได้เมื่อเดือน ก.ย. 2562 ที่ผ่านมา เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้รับบัตรประชาชนมาแล้ว รู้สึกโล่งใจขึ้นอีกเปลาะหนึ่งเพราะได้สิทธิเหมือนประชาชนไทยคนอื่น ๆ แล้ว ไม่ว่าจะเป็นสิทธิการรักษาพยาบาลหรือสวัสดิการอื่น ๆ

"อย่างสิทธิชิม ช็อป ใช้ก็ได้กับเขาแล้ว ไปใช้มาแล้วครั้งหนึ่งด้วย ส่วนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐก็รอให้เขาเปิดลงทะเบียนรอบใหม่อยู่ ส่วนสิทธิการรักษาพยาบาลก็ไม่ต้องห่วงเรื่องค่ารักษา ล่าสุดเพิ่งไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลธัญบุรีไปเมื่อวันที่ 9 ธ.ค.2562 ที่ผ่านมานี้เอง ได้บัตรเดือน ก.ย. 2562 ขึ้นทะเบียนสิทธิบัตรทอง กว่าจะได้สิทธิก็วันที่ 28 พ.ย. 2562 พอได้สิทธิแล้วก็ไปที่คลินิกใกล้บ้านเลย ทางคลินิกก็ส่งตัวไปโรงพยาบาลธัญบุรี เป็นการไปโรงพยาบาลเพื่อรับการรักษาเป็นครั้งแรกเพราะที่ผ่านมาซื้อยารับประทานเองมาโดยตลอด" น.ส.ปราณี กล่าว

ทั้งนี้ น.ส.ปราณีเคยประสบเหตุลื่นล้มเมื่อ 2 ปีก่อน และมีอาการปวดข้อมือมาโดยตลอด ซึ่งจากการวินิจฉัยของแพทย์ที่ไปรับบริการในครั้งนี้พบว่าไม่เกี่ยวกับความผิดปกติของกระดูก แต่เกิดจากเส้นเอ็นอักเสบอันเนื่องจากท่าทางในการทำงาน เพราะตนรับจ้างร้อยพวงมาลัยใช้แต่นิ้วโป้งและนิ้วชี้่ซ้ำ ๆ เดิม ๆ และแพทย์ให้ทั้งยาทาและยารับประทาน และหากยังไม่หายปวดต้องไปพบแพทย์อีกครั้งเพื่อเปลี่ยนตัวยาใหม่

น.ส.ปราณี กล่าวถึงประสบการณ์การขอทำบัตรประชาชนว่าเป็นเรื่องที่มีขั้นตอนมากกว่าจะได้บัตร ต้องให้เทศบาลสอบประวัติ ต้องตรวจ DNA กว่าเรื่องจะเสร็จก็ใช้เวลาประมาณ 1 ปีพอดี ซึ่งจากประสบการณ์แล้วอยากเสนอให้เจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องควรให้คำแนะนำแก่ผู้ขอทำบัตรบ้างว่าต้องติดต่อหน่วยงานไหน อย่างไร เพราะที่ตนประสบมาคือเจ้าหน้าที่ไม่แนะนำอะไรเลย เอาแต่ไล่ ไม่บอกว่าต้องทำอะไรบ้าง อย่างน้อยควรให้คำแนะนำบ้างว่าต้องไปไปตรงนั้นตรงนี้

"ชีวิตหลังจากนี้ก็ไม่มีแผนอะไรเพราะอายุมากแล้วคงไม่สามารถทำอะไรได้ การใช้ชีวิตก็คงปกติเหมือนเดิมเพียงแต่รู้สึกโล่งใจขึ้นเพราะมีบัตรประชาชนแล้ว ไม่ต้องกังวลเรื่องค่ารักษาพยาบาลอีก" น.ส.ปราณี กล่าว

ทั้งนี้ น.ส.ปราณี เกิดในประเทศไทย มีแม่เป็นคนไทย พ่อเป็นชาวจีน มีพี่น้อง 3 คนโดยพี่สาวและน้องสาวไม่มีปัญหาเพราะใช้นามสกุลแม่ แต่ในส่วนของ น.ส.ปราณี พ่อเป็นคนไปแจ้งเกิดและด้วยความไม่รู้ภาษาไทยจึงแจ้งแซ่หรือนามสกุลของพ่อแทน น.ส.ปราณี จึงไม่สามารถย้ายชื่อเข้าทะเบียนบ้านและทำบัตรประชาชนได้ และเมื่อไม่มีบัตรประชาชน ทำให้ชีวิตสูญเสียโอกาสมากมาย อย่างเกิดเจ็บป่วยก็ไม่มีสิทธิเข้ารับการรักษาพยาบาลโดยใช้สิทธิบัตรทองเหมือนคนอื่น ทุกครั้งที่มีอาการป่วยไม่ว่าจะป่วยมากหรือป่วยน้อยจะต้องหาเงินมาจ่ายค่ารักษาตัวเอง ขณะเดียวกันยังไม่สามารถไปสมัครงานตามโรงงานได้ ชีวิตทำได้เพียงเป็นลูกจ้างหรือค้าขายเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เกิดผืนดินไทย “ชื่อจีน ใช้แซ่” ดิ้นรนขอทำบัตร ปชช. หวังได้สิทธิบัตรทองหลักประกันยามป่วย