สปสช.แนะขั้นตอนร่วมโครงการ “ผู้ป่วย 4 กลุ่มโรค รับยาร้านยา 1 ต.ค.” นี้ เริ่มต้นที่ รพ. หมอประเมินอาการผ่านให้ผู้ป่วยร่วมโครงการได้ เลือกร้านยาเครือข่าย รพ. เป็นจุดบริการรับยาต่อเนื่อง ประสาน สสจ. สปสช.เขตทุกพื้นที่ ตรวจดูความพร้อมก่อนเริ่มระบบ พร้อมย้ำ “ไม่บังคับ ขึ้นอยู่กับความสมัครใจของผู้ป่วย”
เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2562 นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า โครงการลดความแออัดในโรงพยาบาลโดยร้านยาแผนปัจจุบัน ที่จะเริ่มต้นในวันที่ 1 ตุลาคม 2562 นี้ ขณะนี้ทั้งในส่วนของกระทรวงสาธารณสุขและสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้จัดเตรียมความพร้อมแล้วทั้งในส่วนของโรงพยาบาลและร้านยา เพื่อเป็นทางเลือกในการรับยาหลังพบแพทย์ให้กับผู้ป่วยสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ทำให้ไม่ต้องมารอคิวรับยาที่โรงพยาบาลเป็นเวลานาน ให้ขึ้นอยู่กับความสมัครใจของผู้ป่วยและความเห็นของแพทย์ว่าผู้ป่วยสามารถร่วมโครงการรับยาที่ร้านยาได้หรือไม่ โดยร้านยาที่เข้าร่วมโครงการต้องเป็นร้านยา ข.ย.1 ที่มีเภสัชกรประจำร้าน เพื่อเป็นหน่วยบริการร่วมเป็นเครือข่ายกับโรงพยาบาล
ในช่วงเริ่มต้นโครงการจะดูแลผู้ป่วย 4 กลุ่มโรค คือ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หอบหืด และจิตเวช รวมถึงโรคเรื้อรังอื่นที่ไม่ซับซ้อน ซึ่งยาที่ผู้ป่วยจะได้รับจากร้านยาในระยะแรกจะเป็นยาที่จัดส่งมาจากโรงพยาบาล เป็นยารายการเดียวกัน ยี่ห้อเดียวกัน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ป่วย
นพ.ศักดิ์ชัย กล่าวว่า สิ่งสำคัญของโครงการนี้คือการเชื่อมต่อข้อมูลของผู้ป่วยระหว่างโรงพยาบาลและร้านยา ที่ต้องได้รับความยินยอมจากผู้ป่วยในการส่งข้อมูล โดยโรงพยาบาลจะจัดส่งเฉพาะข้อมูลที่จำเป็นของผู้ป่วยให้กับร้านยาเพื่อให้จ่ายยาและให้คำแนะนำกับผู้ป่วยได้ ซึ่งเป็นส่วนที่โรงพยาบาลและร้านยาต้องพูดคุยกัน และหลังจากดำเนินโครงการจะต้องมีการประเมินเพื่อนำไปสู่การปรับปรุง ทั้งในส่วนของผู้ป่วยที่มารับยา ทั้งในด้านสุขภาพและความพึงพอใจต่อระบบ ในส่วนของโรงพยาบาลในด้านบริการ ทำให้มีเวลาในการดูแลผู้ป่วยที่มีภาวะโรคซับซ้อนมากขึ้น การควบคุมคุณภาพยาในหอผู้ป่วย เป็นต้น
ในวันที่ 1 ตุลาคม 2562 นี้ ผู้ป่วยที่สนใจและต้องการเข้าร่วมโครงการ สามารถสอบถามโรงพยาบาลว่าได้เข้าร่วมโครงการหรือไม่ ซึ่งหากเป็นโรงพยาบาลที่เข้าร่วมโครงการจะมีรายชื่อร้านยา ข.ย.1 ให้เลือก โดยผู้ป่วยสามารถเลือกรับยาร้านยาที่เป็นเครือข่ายร่วมบริการกับโรงพยาบาลได้ตามความสะดวก ซึ่งจะมีการติดป้าย “ร้านยาชุมชนอบอุ่น” ที่ร้านยาเพื่อเป็นการแสดงสัญลักษณ์ ทั้งนี้ร้านยาที่ผู้ป่วยเลือกไว้กับโรงพยาบาลจะเป็นจุดบริการด้านยาที่ผู้ป่วยรับยาในคราวต่อไป เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลต่อเนื่อง
“ช่องทางง่ายสุดในวันที่ 1 ต.ค.62 ให้ผู้ป่วยที่สนใจถามโรงพยาบาลก่อน เพราะจุดเริ่มต้นบริการต้องเริ่มที่โรงพยาบาลก่อน คุณหมอจะเป็นผู้ประเมินผู้ป่วยที่จะเข้าร่วมโครงการและออกใบสั่งจ่ายยาให้ เช่น อาการโรคคงที่ ไม่ต้องได้รับการดูแลซับซ้อน หรือการตรวจพิเศษ ขณะนี้มีโรงพยาบาลจำนวน 37 แห่ง และร้านยาจำนวนกว่า 300 แห่ง ที่ได้ขึ้นทะเบียนเข้าสู่ระบบอย่างเป็นทางการแล้ว และยังมีที่อยู่ระหว่างดำเนินการเพิ่มเติม”
นพ.ศักดิ์ชัย กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขได้ร่วมกับ สปสช. โดยให้ สสจ.และ สปสช.เขต ลงไปตรวจดูความพร้อมของโรงพยาบาลที่เข้าร่วมโครงการ ดูว่ามีปัญหาและอุปสรรคอะไรหรือไม่ เพื่อที่จะได้ร่วมกันแก้ไขปัญหา และต้องชี้แจงว่า ในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ ถือเป็นวันเริ่มต้นระบบผู้ป่วยรับยาที่ร้านยา แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกโรงพยาบาลที่ร่วมโครงการต้องเริ่มต้นไปพร้อมกัน แต่จะเดินหน้าเฉพาะโรงพยาบาลที่มีความพร้อมก่อน โดยประชาชนที่สนใจและต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สอบถามได้ที่สายด่วน สปสช.1330
- 65 views