พยาบาลวิชาชีพสุรินทร์ ร่อนหนังสือร้องเรียนนายกรัฐมนตรี เหตุถูกกีดกันขึ้น ผอ.รพ.สต. ไม่ปฏิบัติตามประกาศ สป.สธ. กรอบโครงสร้างอัตรากำลังใหม่ ขัดรัฐธรรมนูญ ชี้เป็นการเลือกปฏิบัติ เอื้อประโยชน์ นวก.สธ.ชำนาญการ และ จพ.สธ.ชำนาญงาน ระบุเคยถามทักท้วงแต่กลับไม่ได้รับคำตอบ เผยนั่งรักษาการ ผอ.รพ.สต.นาน 8 ปี ขณะที่ทั้งจังหวัดมีพยาบาลวิชาชีพรักษาการ ผอ.รพ.สต. 30 แห่ง จาก 212 แห่ง พร้อมขอความเป็นธรรม สร้างขวัญกำลังใจผู้ปฏิบัติงาน
นายธนวรรธน์ สุขุมพันธ์พิพัฒนา
นายธนวรรธน์ สุขุมพันธ์พิพัฒนา พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ รักษาการตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านม่วงมูล อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ และในฐานะตัวแทนชมรมพยาบาลวิชาชีพโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล จ.สุรินทร์ กล่าวว่า ตามประกาศกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงสาธารณสุข พ.ศ. 2560 และหนังสือ สป.สธ. ลงวันที่ 14 มิถุนายน 2560 เรื่องโครงสร้างและกรอบอัตรากำลังหน่วยงานในส่วนราชการบริหารส่วนภูมิภาคสังกัด สป.สธ. ได้กำหนดกรอบโครงสร้าง รพ.สต. โดยให้ผู้ที่ขึ้นดำรงตำแหน่ง ผอ.รพ.สต.ได้ต้องมีตำแหน่งดังนี้ 1.นักวิชาการสาธารณสุขปฏิบัติการ/ชำนาญการ หรือชำนาญการพิเศษ 2.พยาบาลวิชาชีพปฏิบัติการ หรือ ชำนาญการ และ 3.เจ้าพนักงานสาธารณสุขชำนาญงาน หรืออาวุโส
แต่ตามที่จังหวัดสุรินทร์ประกาศเรื่อง “รับย้ายข้าราชการเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ใน รพ.สต.สังกัดสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุรินทร์” (สสจ.สุรินทร์) เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ และวันที่ 1 เมษายน 2562 ที่ผ่านมา ได้กำหนดคุณสมบัติผู้จะดำรงตำแหน่ง ผอ.รพ.สต.เฉพาะนักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ (นวก.สธ.ชำนาญการ) และเจ้าพนักงานสาธารณสุขชำนาญงาน (จพ.สธ.ชำนาญงาน) เท่านั้น ไม่มีพยาบาลวิชาชีพปฏิบัติการ หรือชำนาญการ
นายธนวรรณธน์ กล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้นนอกจากขัดต่อประกาศของ สป.สธ.ที่ออกมาก่อนหน้านี้แล้ว ยังเป็นการกีดกันพยาบาลวิชาชีพในการขึ้นดำรงตำแหน่ง ผอ.รพ.สต. เอื้อประโยชน์ให้ตำแหน่งนักวิชาการสาธารณสุขและเจ้าพนักงานสาธารณสุข ส่งผลกระทบต่อความก้าวหน้าของพยาบาลวิชาชีพปฏิบัติการหรือชำนาญการในพื้นที่ ถือเป็นการเลือกปฏิบัติ ไม่เป็นธรรม ก่อให้เกิดความไม่เสมอภาค ขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 4 ระบุว่า “ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิ เสรีภาพ และความเสมอภาคของบุคคล ย่อมได้รับความคุ้มครอง ปวงชนชาวไทยย่อมได้รับความคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญเสมอกัน”
อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ มี รพ.สต.จำนวน 17 แห่ง ในจำนวนนี้มีพยาบาลวิชาชีพที่รักษาการตำแหน่ง ผอ.รพ.สต. จำนวน 3 แห่ง ขณะที่ทั้งจังหวัดสุรินทร์ มี รพ.สต.จำนวน 212 แห่ง ในจำนวนนี้มีพยาบาลวิชาชีพรักษาการตำแหน่ง ผอ.รพ.สต. จำนวนกว่า 30 แห่ง รวมถึงตนเองที่ยังรักษาการตำแหน่ง ผอ.รพ.สต.มานานถึง 8 ปีแล้ว ทั้งยังได้ทำงานที่ รพ.สต.บ้านม่วงมูลมาโดยตลอดตั้งแต่เป็นพยาบาลวิชาชีพปฏิบัติการด้วยความตั้งใจ ทำให้ทราบปัญหาและการทำงานด้านสุขภาพในพื้นที่เป็นอย่างดี และในการขึ้นตำแหน่ง ผอ.รพ.สต. หาก สป.สธ.ไม่มีการประกาศกรอบโครงสร้างใหม่ เราคงไม่เรียกร้อง แต่เมื่อมีการประกาศใช้แล้วตามหลักการก็ควรปฏิบัติตาม โดยเปิดให้พยาบาลวิชาชีพมีสิทธิในการขึ้นตำแหน่ง ผอ.รพ.สต.
นายธนวรรธน์ กล่าวว่า วันนี้เรารู้สึกว่ามีการกีดกันและเลือกปฏิบัติเพราะ สธ.ได้ประกาศกรอบโครงสร้างใหม่ตั้งแต่ปี 2560 แล้ว แต่ที่จังหวัดสุรินทร์กลับยังคงยึดประกาศเก่า ไม่เปิดให้พยาบาลวิชาชีพร่วมสอบและคัดเลือกเป็น ผอ.รพ.สต. ซึ่งจากที่สอบถามไปยังส่วนงานที่เกี่ยวข้องใน สสจ.สุรินทร์ ก็ไม่ได้รับคำชี้แจง เพียงแต่แจ้งว่าในการรับสมัครยังคงยึดตามประกาศเก่าเท่านั้น ทั้งที่จังหวัดบุรีรัมย์ได้ดำเนินการประกาศตามกรอบโครงสร้างใหม่ ขณะที่ จ.แพร่ จากที่ได้มีประกาศเปิดรับแต่งตั้ง ผอ.รพ.สต.โดยยึดตามประกาศเก่า ต่อมาก็ได้ยกเลิกดำเนินการ เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปตามประกาศกรอบโครงสร้างใหม่และหนังสือ สป.สธ.ที่ออกมาก่อนหน้านี้ โดยให้ทุกหน่วยงานชะลอการจัดทำคำสั่งที่มีผลกระทบต่อโครงสร้างและกรอบอัตรากำลังตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2561
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ที่ผ่านมาได้ทำหนังสือร้องเรียนถึงนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ผู้ว่าราชการจังหวัด และนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสุรินทร์ ขอความเป็นธรรมและขอให้พิจารณาดำเนินการ ดังนี้
1.ยกเลิกประกาศ และยกเลิกการแต่งตั้งบุคคลให้ดำรงตำแหน่ง ผอ.รพ.สต.ตามประกาศดังกล่าวและชะลอการประกาศเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ผอ.รพ.สต.จนกว่าจะมีแนวทางที่ชัดเจนจาก สสจ.สุรินทร์ในการดำเนินการแต่งตั้งให้พยาบาลวิชาชีพดำรงตำแหน่ง ผอ.รพ.สต.
2.ทบทวน และขอให้ปรับปรุงกำหนดตำแหน่ง ผอ.รพ.สต. โดยให้มีสัดส่วนสายงานตำแหน่งพยาบาลวิชาชีพในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกับตำแหน่งนักวิชาการสาธารณสุข เพื่อเปิดโอกาสและให้ความเป็นธรรมต่อพยาบาลวิชาชีพอย่างเท่าเทียมและเสมอภาค
3.ให้มีการกำหนดแนวทางการแต่งตั้งให้พยาบาลวิชาชีพดำรงตำแหน่ง ผอ.รพ.สต.
นายธนวรรธน์ กล่าวว่า ขอให้ผู้บริหารและผู้ที่เกี่ยวข้องพิจารณาให้ความเป็นธรรมเพื่อสร้างขวัญกำลังใจ โอกาสก้าวหน้าในวิชาชีพและความเสมอภาค จากการพัฒนาตนเองและใช้ประสบการณ์จากการปฏิบัติงานที่ผ่านมาให้เกิดประโยชน์แก่ทางราชการ ในการให้บริการด้านสาธารณสุขในชุมชน ซึ่งพยาบาลวิชาชีพทุกคนล้วนมีความทุ่มเทในการปฏิบัติงานในชุมชนที่ห่างไกลอย่างเต็มความรู้ ความสามารถ มีจิตอาสา ทำความดีด้วยหัวใจ เพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชนและประเทศชาติต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แจงหลายวิชาชีพขึ้นเป็น 'ผอ.รพ.สต.' ได้ แต่ต้องเปลี่ยนตำแหน่งเป็น 'นักวิชาการสาธารณสุข'
- 108 views