กระทรวงสาธารณสุข ให้ รพ.ทุกแห่งเข้มมาตรการรักษาความปลอดภัยในเขตโรงพยาบาล เพิ่มเวรยามดูแลคนไข้-ประชาชน โดยเฉพาะในช่วงเทศกาล เช็คสภาพกล้องวงจรปิด ติดตั้งเพิ่มในจุดเสี่ยง ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปรับระบบการเข้าออกห้องฉุกเฉิน เช่น คีย์การ์ด โค้ด หรือพิมพ์ลายนิ้วมือ เพื่อคัดกรองผู้ที่จะเข้าออกห้องฉุกเฉิน เพื่อให้บุคลากรที่ปฏิบัติงาน และประชาชนปลอดภัย
นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข
วันที่ 7 พฤศจิกายน 2560 นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข ปลัดกระทรวงสาธารณสุขให้สัมภาษณ์ ว่าได้รับรายงานเกิดเหตุทะเลาะวิวาทในเขตพื้นที่โรงพยาบาล ในช่วงเทศกาลวันลอยกระทง วันที่ 5 พฤศจิกายน 2560 เกิด 2 เหตุการณ์ ที่ โรงพยาบาลกระทุ่มแบน อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร และที่โรงพยาบาลดอยเต่า อำเภอดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับทรัพย์สินของโรงพยาบาล รวมทั้งมีผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว เพื่อความปลอดภัยของประชาชนผู้รับบริการ และบุคลากรที่ปฏิบัติงาน เบื้องต้น จึงได้สั่งการให้โรงพยาบาลในสังกัดทั่วประเทศ เฝ้าระวังและเพิ่มมาตรการในการรักษาความปลอดภัยให้เข้มงวดยิ่งขึ้น ดังนี้
1.เพิ่มเวรยามรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง
2.ตรวจสอบกล้องวงจรปิด (CCTV) ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน และติดเพิ่มในจุดเสี่ยงและสถานที่สำคัญ เช่น บริเวณโถงทางเดิน ทางเข้า-ออกโรงพยาบาลในหอผู้ป่วยทุกแผนก และกำชับให้เจ้าหน้าที่ในสถานพยาบาลทุกคนช่วยสอดส่องดูแลความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สินของคนไข้และประชาชนที่มาใช้บริการอย่างดีที่สุด
3.ประสานงานเจ้าหน้าที่ตำรวจ และทหารช่วยดูแลรักษาความปลอดภัยเพิ่มเติมโดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสำคัญต่างๆหรือที่มีการจัดงานต่างๆ ของแต่ละพื้นที่
4.ปรับระบบการเข้าออกห้องฉุกเฉิน เช่น คีย์การ์ด โค้ด หรือพิมพ์ลายนิ้วมือ เพื่อคัดกรองผู้ที่จะเข้าออกห้องฉุกเฉิน
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุข ได้เร่งให้โรงพยาบาลทุกแห่ง ปรับปรุงมาตรฐานห้องฉุกเฉินให้เป็นห้องฉุกเฉินคุณภาพ ซึ่งอยู่ระหว่างจัดทำ “คู่มือห้องฉุกเฉินคุณภาพ” คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเวลา 3 เดือน โดยเน้นความปลอดภัยของผู้ป่วยและเจ้าหน้าที่ (Patient and Personnel Safety : 2P Safety) เช่น มีระบบรักษาความปลอดภัยในการเข้า-ออกห้องฉุกเฉินที่ได้มาตรฐาน และมีเทคโนโลยีในการรักษาและดูแลความปลอดภัยอย่างครบวงจร อาทิ รถพยาบาลปลอดภัยมีเครื่องช่วยชีวิตที่ได้มาตรฐาน มีระบบคัดแยกผู้ป่วยฉุกเฉินชัดเจนมีมาตรฐาน ผู้ป่วยวิกฤติต้องได้รับการรักษาด่วนไม่อยู่ห้องอีอาร์นานกว่า 4 ชั่วโมง เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต มีสิทธิทุกที่ (UCEP) ความปลอดภัยเจ้าหน้าที่ที่ห้องฉุกเฉินไม่ถูกคุกคาม เป็นต้น
สำหรับเหตุการณที่โรงพยาบาลกระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้แล้วจำนวนหนึ่ง ที่เหลืออยู่ระหว่างการติดตามจับกุม ส่วนที่โรงพยาบาลดอยเต่า จ.เชียงใหม่ อยู่ในระหว่างการติดตามจับกุม
“สถานพยาบาลเป็นสถานที่ราชการ เป็นที่สำหรับดูแลผู้เจ็บป่วย แม้ในยามศึกสงคราม ก็ยังเว้นให้โรงพยาบาล ฉะนั้นขอร้องอย่าก่อเหตุทะเลาะวิวาทในโรงพยาบาลอีก เพราะผู้ที่ไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลนั้นเจ็บป่วยอยู่แล้วหากมีการทะเลาะวิวาทอีกจะเป็นการสร้างความตื่นตระหนกตกใจให้ผู้รับบริการและเจ้าหน้าที่ จึงขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยดำเนินการอย่างเฉียบขาดเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างและเกิดการทะเลาะวิวาทในโรงพยาบาลอีก” นพ.เจษฎา กล่าว
- 14 views