นายกฯ ติดตามการดำเนินงานนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจไทย ด้วยธุรกิจและผลิตภัณฑ์สมุนไพร ที่ รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร จ.ปราจีนบุรี แผนปฏิบัติการ 5 ปีรองรับยุทธศาสตร์ประเทศไทย 4.0 ตั้งเป้าหมายมีเมืองสมุนไพรใน 12 เขตสุขภาพ เพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์สมุนไพรให้ได้ 3.2 แสนล้านบาท และมูลค่าการใช้สมุนไพรในสถานบริการ 3,000 ล้านบาท สร้างอภัยภูเบศร บิสสิเนส โมเดลเป็นต้นแบบการยกระดับธุรกิจสมุนไพรไทยสู่สากล

เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2560 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี  พร้อมด้วย นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และคณะ ติดตามการดำเนินงานตามนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจไทย ด้วยธุรกิจและผลิตภัณฑ์สมุนไพร ที่โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร จ.ปราจีนบุรี ตามนโยบายรัฐบาลที่ต้องการให้มีการพัฒนาสมุนไพรไทยอย่างเป็นระบบและยั่งยืน โดยส่งเสริมการพัฒนาต่อยอดยารักษาโรค เน้นการใช้ยาสมุนไพรทดแทนยาแผนปัจจุบัน ตลอดจนส่งเสริมการเกษตรเพาะปลูกสมุนไพรในแต่ละชุมชน ช่วยกระจายโอกาสและสร้างรายได้ให้กับชุมชน มอบให้กระทรวงสาธารณสุข เร่งรัดการส่งเสริมผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด ทั้งในและต่างประเทศ และนำยาสมุนไพรมาใช้ในการรักษาของสถานพยาบาลให้มากยิ่งขึ้น

รัฐบาลได้กำหนดแผนแม่บทแห่งชาติว่าด้วยการพัฒนาสมุนไพรไทย พ.ศ.2560-2564 เพื่อบูรณาการทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย 4 ยุทธศาสตร์ คือ 

1.ส่งเสริมผลิตผลของสมุนไพรไทยที่มีศักยภาพตามความต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ  

2.พัฒนาอุตสาหกรรม และการตลาดสมุนไพรให้มีคุณภาพระดับสากล  

3.ส่งเสริมการใช้สมุนไพรเพื่อการรักษาโรค และการสร้างเสริมสุขภาพ 

4.สร้างความเข้มแข็งของการบริหารและนโยบายภาครัฐเพื่อการขับเคลื่อนสมุนไพรไทยอย่างยั่งยืน

ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดทำชุดโครงการเพื่อการขับเคลื่อนสมุนไพรเชิงเศรษฐกิจ โดยพัฒนาผลิตภัณฑ์สมุนไพรตลอดห่วงโซ่มูลค่า (Value chain) ให้มีคุณภาพและสอดคล้องกับความต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ วงเงินงบประมาณ 1,162 ล้านบาท กำหนดสมุนไพร Product Champions 4 ชนิด ได้แก่ ไพล ขมิ้นชัน กระชายดำ และบัวบก

รวมทั้งจัดทำแผนปฏิบัติการระยะ 5 ปีรองรับยุทธศาสตร์ประเทศไทย 4.0 กำหนดการพัฒนาเมืองสมุนไพรเป็นไกการทำงานระดับพื้นที่ เพื่อให้เกิดการพัฒนาสมุนไพรอย่างครบวงจร สร้างความมั่นคงในด้านสุขภาพและเศรษฐกิจอย่างเป็นรูปธรรม มีการส่งออกวัตถุดิบสมุนไพรและผลิตภัณฑ์สมุนไพรชั้นนำของอาเซียน ตั้งเป้าหมายมีเมืองสมุนไพรใน 12 เขตสุขภาพ เพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์สมุนไพรให้ได้ 3.2 แสนล้านบาท และมูลค่าการใช้สมุนไพรในสถานบริการ 3,000 ล้านบาท

โดยในปี 2559 จะมีเมืองสมุนไพรต้นแบบใน 4 จังหวัดคือ ปราจีนบุรี สุราษฎร์ธานี เชียงราย และสกลนคร และสร้างอภัยภูเบศร์ บิสสิเนส โมเดล (Abhaibhubejhr Business Model) เป็นต้นแบบการยกระดับธุรกิจสู่สากล มุ่งเน้นให้ประชาชนไทยใช้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพให้มากยิ่งขึ้น

สำหรับโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ได้เตรียมการยกระดับผลิตภัณฑ์สู่ระดับสากล เป็นผู้นำตลาดสมุนไพรของอาเซียนภายใน 3 ปี ด้วย 8 กลยุทธ์คือ 

1.เพิ่มช่องทางการกระจายสินค้า 

2.เพิ่มการการยอมรับในกลุ่มวิชาชีพ 

3.พัฒนาบรรจุภัณฑ์หีบห่อให้แข่งขันได้ 

4.พัฒนาตลาดโดยบูรณาการกับการท่องเที่ยว 

5.ขยายตลาดต่างประเทศร่วมกับเครือข่าย 

6.สร้างงานวิจัยและนวตกรรม 

7.พัฒนาการตลาดออนไลน์

และ 8.สร้างภาพลักษณ์ Thailand as Health Hub 

ในการพัฒนาเมืองสมุนไพรของจังหวัดปราจีนบุรี มีการดำเนินการจัดการด้านสมุนไพร โดยสนับสนุนกลุ่มเกษตรกรให้ปลูกสมุนไพรอินทรีย์ปลอดสารเคมีที่ได้รับการรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์จากสหพันธ์เกษตรอินทรีย์นานาชาติ มีโรงงานแปรรูปผลิตสมุนไพรไทยผ่านมาตรฐาน Good Manufacturing Practice for Pharmaceutical Facility (GMP-PIC/S) ซึ่งเป็นมาตรฐานการผลิตยาขั้นสูงเทียบเท่ายาแผนปัจจุบัน มีการส่งออกผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางไปในประเทศญี่ปุ่น พม่า และจะขยายไปสู่ตลาดอาเซียน 

รวมทั้ง ใช้การแพทย์แผนปัจจุบันควบคู่กับการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เน้นการดูแลแบบองค์รวม สอดคล้องกับสังคมวัฒนธรรมและวิถีชุมชน ในกลุ่มโรคหลอดเลือดสมอง อัมพฤกษ์อัมพาต กลุ่มโรคกล้ามเนื้อ กระดูกและข้อ กลุ่มโรคผิวหนัง เช่น โรคหนังแข็ง โรคสะเก็ดเงิน และการดูแลมารดาหลังคลอด เป็นการทำงานร่วมกันของสหสาขาวิชาชีพ เพื่อต่อยอดองค์ความรู้นำไปสู่งานวิจัย สร้างความเชื่อมั่นให้กับการแพทย์แผนไทย และเป็นแหล่งเรียนรู้ศึกษาดูงานในระดับนานาชาติ