สบส.สอบ ‘แก้มหอมคลินิก’ เชียงใหม่ โฆษณาเกินจริง หลอก ปชช. รักษามะเร็ง ไตวายหาย

กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ประสานสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ และ สคบ. ตรวจสอบการโฆษณาผ่านสื่อโซเชียลของแก้มหอมคลินิกการแพทย์แผนไทย จ.เชียงใหม่ ว่าสามารถรักษาโรคมะเร็ง ไตวายขั้นสุดท้ายหายที่เดียวในประเทศไทย เข้าข่ายโฆษณาโอ้อวดเกินจริง หลอกให้ประชาชนหลงเชื่อ มีความผิดโทษจำคุก 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากพบว่าใช้ผู้ที่ไม่มีใบประกอบโรคศิลปะรักษาผู้ป่วยจะพ่วงโทษหมอเถื่อนด้วย

จากกรณีที่มีการโฆษณาผ่านสื่อโซเชียลว่าแก้มหอมคลินิกการแพทย์แผนไทย จ.เชียงใหม่ สามารถรักษาโรคมะเร็ง ไตวายขั้นสุดท้ายหายที่เดียวในประเทศไทย และ ดร.แก้มหอม เจ้าของคลินิกแห่งนี้ เป็นหมอคนแรกของโลกที่สามารถรักษาโรคไตวาย โรคมะเร็งระยะสุดท้าย เช่น มะเร็งตับ ให้หายเป็นปกติได้ โดยมีการแชร์ข้อมูลดังกล่าวผ่านสื่อโซเชียลในหลากลายช่องทางทั้ง เฟซบุ๊ค ไลน์ ต่อไปอีก

นพ.วิศิษฎ์ ตั้งนภากร

ความคืบหน้ากรณีดังกล่าววันนี้ (31 มกราคม 2560) นพ.วิศิษฎ์ ตั้งนภากร อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ได้สั่งการให้สำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ ตรวจสอบการโฆษณาดังกล่าว ซึ่งเข้าข่ายการโฆษณาเกินจริง ทำให้ประชาชนโดยเฉพาะผู้ที่กำลังป่วยเป็นโรคไตวาย และโรคมะเร็งชนิดต่างๆ ในระยะสุดท้ายซึ่งมีจำนวนมากเกิดการหลงเชื่อ

โดยจะตรวจสอบใน 2 ประเด็น ประเด็นแรก คือ การโฆษณาว่าสามารถรักษาโรคไตวาย และโรคมะเร็ง ซึ่งตามกฎหมายได้ห้ามโฆษณาว่ามียาที่สามารถรักษา 2 โรคนี้ให้หายขาด เนื่องจากยังไม่มีหลักวิชาการใดในโลกยืนยัน  และประเด็นที่ 2 คือ การใช้ข้อความว่าตนเป็นรายแรกของโลก ทำให้ประชาชนเข้าใจผิดว่ามีคุณภาพดีกว่า หรือสูงกว่าแห่งอื่น และเกิดความคาดหวังตามมา ถือว่ามีความผิดตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.2541 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม ในฉบับที่ 4 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 21 ธันวาคม 2559 เป็นต้นมา มีโทษจำคุก 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ปรับอีกวันละไม่เกิน 1 หมื่นบาทจนกว่าจะระงับการโฆษณา

 “ปัจจุบันคนไทย และทั่วโลกป่วยเป็นโรคเรื้อรังจำนวนมาก โดยเฉพาะโรคมะเร็ง โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน ซึ่ง 2 โรคหลังนี้ เมื่อเป็นแล้วรักษาไม่หายขาดและหากควบคุมอาการได้ไม่ดีจะทำให้เกิดปัญหาโรคไตวายตามมา ปัญหาของโรคเรื้อรังยังเป็นช่องทางการฉกฉวย ผลประโยชน์จากความทุกข์ทรมานของผู้ป่วย และญาติ จึงขอให้พิจารณาอย่างถี่ถ้วน อย่าหลงเชื่อกับการโฆษณาผ่านสื่อโซเชียล และหากพบเห็นการโฆษณาที่อวดอ้างสรรพคุณว่าสามารถรักษาโรคเรื้อรังหาย ขอให้แจ้งหรือปรึกษา อสม. เจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ หรือทีมหมอครอบครัว ก่อนทุกครั้ง เพื่อมิให้เกิดการสูญเปล่าทั้งเงินทอง และสุขภาพ” นพ.วิศิษฎ์ กล่าว

ด้าน ทพ.อาคม ประดิษฐสุวรรณ ผู้อำนวยการสำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ กล่าวว่า ได้ประสานกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) เชียงใหม่ และสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือสคบ.ตรวจสอบแก้มหอมคลินิกการแพทย์แผนไทย ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 333 หมู่ 4 อ.สารภี จ.เชียงใหม่ พบว่าเป็นคลินิกที่ขึ้นทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย โดยมีดร.แก้มหอม สวนแก้ว เป็นเจ้าของกิจการ คลินิกแห่งนี้ยังใช้ชื่อ อโรคยา เดอสารภี หมอแก้มหอม จำหน่ายยาสมุนไพรหลายชนิดด้วย สสจ.เชียงใหม่ ดำเนินการเอาผิดเรื่องการโฆษณาในสื่อโซเชียล ส่วน สคบ.ให้ดำเนินการเอาผิดในโทษฐานโฆษณาหลอกลวงประชาชน นอกจากนี้ยังตรวจสอบการให้บริการด้วย หากพบว่ารักษาผู้ป่วยโดยผู้ที่ไม่มีใบประกอบโรคศิลปะจะพ่วงโทษหมอเถื่อนอีกกระทง รวมทั้ง ต้องตรวจสอบผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่จำหน่ายในคลินิกว่าได้ขึ้นทะเบียนกับ อย.หรือไม่