สมาคมวิชาชีพสาธารณสุข เตรียมยื่นหนังสือ สช. ขอให้ คกก.กำลังคนด้านสุขภาพแห่งชาติ ทบทวนผลการศึกษาแผนกำลังคนด้านสุขภาพทศวรรษหน้า ลดบุคลากรสาธารณสุขในระบบ หวั่นกระทบต่อแผนพัฒนาสุขภาพประเทศ 20 ปี แถมทำ รธน.ไม่บรรลุเจตนารมณ์ มุ่งส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค พร้อมยื่นหนังสือ สธ. ในฐานะหน่วยงานนำผลการศึกษาประกอบวางแผนกำลังคนในระบบสาธารณสุข 10 ปี   

นายสมบัติ ชูเถื่อน เลขาธิการสมาคมวิชาชีพสาธารณสุข กล่าวถึงผลการศึกษา การวางแผนกำลังด้านสุขภาพของประเทศไทยในทศวรรษหน้า (พ.ศ.2560-2569) ที่คณะอนุกรรมการวางแผนกำลังคนด้านสุขภาพ ได้นำเสนอต่อคณะกรรมการกำลังคนด้านสุขภาพแห่งชาติและได้ให้ความเห็นชอบว่า ในส่วนของการศึกษากำลังคนวิชาชีพสาธารณสุข สมาคมวิชาชีพสาธารณสุข ในฐานะหน่วยงานที่มีสมาชิกผู้ประกอบการวิชาชีพสาธารณสุขทั่วประเทศ มีความเห็นด้วยในบางประเด็น และมีความเห็นที่ไม่ตรงและแตกต่างจากผลการศึกษาดังกล่าว ซึ่งจะเสนอให้ทำการทบทวน เนื่องจากมองว่าไม่เพียงแต่จะส่งผลต่อการวางแผนกำลังคนวิชาชีพด้านสาธารณสุข แต่จะกระทบต่อการกำหนดนโยบายสาธารณสุขของประเทศด้วย

ทั้งนี้ในส่วนผลการศึกษาที่เห็นด้วย คือข้อมูลจำนวนอัตรากำลังคนและการผลิต ซึ่งปัจจุบันมีผู้ปฏิบัติงานในวิชาชีพสาธารณสุขทั้งนักวิชาการและเจ้าพนักงานสาธารณสุขชุมชนประมาณ 54,000 คน โดยมีสถาบันการศึกษาที่เปิดการเรียนการสอนวิชาชีพสาธารณสุขกว่า 90 แห่ง ซึ่งแต่ละปีมีจำนวนบัณฑิตที่ถูกผลิตปีละ 26,000 คน และคาดการณ์ว่าในอีก 10 ปีข้างหน้า จะมีนักสาธารณสุขจบการศึกษาอีกกว่า 267,000 คน ซึ่งจำนวนการผลิตที่มากอาจส่งผลต่อคุณภาพนั้น เรื่องนี้ยอมรับ  

แต่ประเด็นที่ไม่เห็นด้วยคือผลการศึกษาที่ระบุว่า “บุคลากรที่จบการศึกษาวิชาชีพสาธารณสุขส่วนใหญ่จะประจำอยู่ในพื้นที่ชนบท องค์กรปกครองท้องถิ่น โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) สถานีอนามัย แต่จากการเปลี่ยนแปลงในปัจจุบันและอนาคต บริบทของสังคมชนบทเริ่มจะหายไป บทบาทของ รพ.สต.น้อยลง ดังนั้น ความจำเป็นที่ต้องใช้บุคลากรด้านสาธารณสุขจึงน้อยลงด้วย”

ในประเด็นนี้มองว่าไม่ถูกต้อง แม้ว่าบริบทของสังคมชนบทจะหายไป และมีความเป็นเมืองมากขึ้น แต่ในแง่การบริการของ รพ.สต.ยังคงต้องมีอยู่ แต่ต้องมีปรับรูปแบบและพัฒนาการบริการให้มากกว่าเดิม ซึ่งภารกิจสำคัญของ รพ.สต. และวิชาชีพสาธารณสุขคือ การส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคที่มีความจำเป็นไม่ว่าจะเป็นชนบทหรือในเมือง รวมถึงมีความจำเป็นในประชาชนทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นคนจนหรือคนรวย การลดความสำคัญของ รพ.สต. และวิชาชีพสาธารณสุขจึงไม่ถูกต้อง และจะนำไปสู่การแบกรับค่าใช้จ่ายรักษาพยาบาลประเทศที่เพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ผลการศึกษานี้ ยังย้อนแย้งกับระบบสุขภาพที่เป็นสากล ตามแผนพัฒนาสุขภาพ 20 ปี กระทรวงสาธารณสุข และร่างรัฐธรรมนูญที่ผ่านการลงประชามติ ที่มุ่งเน้นการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค ส่งผลให้ความต้องการกำลังคนด้านวิชาชีพสาธารณสุขควรต้องเพิ่มขึ้น ซึ่งหากกระทรวงสาธารณสุขนำผลการศึกษานี้ไปวางแผนกำลังคนด้านสาธารณสุขในอีก 10 ปี ข้างหน้า จะทำให้การบรรจุวิชาชีพสาธารณสุขลดลง ซึ่งจะกระทบต่อแผนพัฒนาสุขภาพ โดยเฉพาะการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคไม่บรรลุเป้าหมาย

“สมาคมวิชาชีพสาธารณสุขรู้สึกกังวลต่อผลการศึกษานี้ รวมทั้งทิศทางระบบสุขภาพประเทศ โดยนายปิ่น นันทะเสน นายกสมาคมวิชาชีพสาธารณสุข จะยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการกำลังคนด้านสุขภาพแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) เพื่อขอให้ทบทวนข้อมูลการศึกษาดังกล่าว เนื่องจากจะกระทบต่อระบบสุขภาพของประเทศในระยะยาวได้ และจะยื่นหนังสือต่อกระทรวงสาธารณสุขในฐานะหน่วยงานที่ใช้ข้อมูลการศึกษาเพื่อวางแผนกำลังคนในระบบสาธารณสุข เพราะจะกระทบต่อแผนพัฒนาสุขภาพของประเทศได้” เลขาธิการสมาคมวิชาชีพสาธารณสุข กล่าว

นายสมบัติ กล่าวเพิ่มเติมว่า ส่วนที่มีการวิเคราะห์ว่าในอนาคตวิชาชีพสาธารณสุขชุมชนจะมีจำนวนเกินความต้องการนั้น เรื่องนี้ข้อเท็จจริงในอีก 3 ปี ข้างหน้าวิชาชีพสาธารณสุขชุมชนจะขาดแคลน เนื่องจากเมื่อสภาการสาธารณสุขชุมชนเริ่มออกใบอนุญาตประกอบวิชาชีพการสาธารณสุขชุมชนตาม พ.ร.บ.วิชาชีพการสาธารณสุขชุมชน พ.ศ.2556 ซึ่งต้องมีการรับรองวุฒิ/หลักสูตร ของสถาบันการศึกษาให้ผู้ที่จบการศึกษาด้านวิชาชีพการสาธารณสุขชุมชนมีมาตรฐาน ทั้งการประเมินผู้ป่วยและบำบัดโรคเบื้องต้น และประเมินเพื่อส่งต่อได้ ซึ่งปัจจุบันหลักสูตรการศึกษาสถาบันการศึกษาที่ผลิตวิชาชีพการสาธารณสุขชุมชนยังไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ ดังนั้นการระบุว่า วิชาชีพสาธารณสุขจะล้นตลาด อัตราการผลิตเกินความต้องการ จึงน่าจะเป็นในกลุ่มของนักวิชาการสาธารณสุขและเจ้าพนักงานสาธารณสุข ไม่ใช่วิชาชีพการสาธารณสุขชุมชน การวิเคราะห์ของคณะกรรมการกำลังคนด้านสุขภาพแห่งชาติจึงยังขาดข้อมูลรอบด้าน

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

ผลศึกษาชี้ 10 ปีข้างหน้า วิชาชีพสาธารณสุข ‘คนจะล้นงาน’ เหตุไม่วางแผนผลิต

ชวส.ค้านผลศึกษา 10 ปี วิชาชีพสาธารณสุขคนจะล้นงาน

ชี้ผลศึกษา 10 ปีนักสาธารณสุขจบใหม่ล้นงาน เพื่อวางแผนผลิต ไม่สร้างทรัพยากรที่สูญเสีย