ข่าวหุ้น : บลจ.วรรณ มองบวกหุ้นกลุ่มโรงพยาบาล เล็งเก็บ 5 หุ้นโรงพยาบาลขนาดใหญ่เข้าพอร์ต เพื่อจัดตั้งกองทุนเปิด วรรณ โฮสพีทอล เพื่อทำกำไรระยะยาว นำทีมโดยหุ้น BDMS หุ้น BH หุ้น CHG หุ้น LPH หุ้น VIBHA ระบุ หุ้นดังกล่าวแกร่งและแข็งแรงมากแม้ราคาจะแพงแต่คุ้ม
นายวิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม วรรณ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทมองเชิงบวกต่อหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลในประเทศ โดยมองว่าธุรกิจดังกล่าวยังได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐผ่านงบประมาณด้านสาธารณสุขเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะภาครัฐบาลยังต้องให้ความสำคัญดีกับสุขภาพประชากรในประเทศ ประกอบกับการเพิ่มขึ้นของผู้ประกันตนตามสิทธิประกันสังคมที่เพิ่มขึ้นจาก 9.36 ล้านคนในปี 52 เป็น 13.20 ล้านคนในปี 57
ทั้งนี้มองได้ว่า ระบบประกันสังคมของประเทศมีความมั่นคงและมีความสามารถในการเติบโตของรายได้ ทำให้มีค่าใช้จ่ายประโยชน์ทดแทนของกองทุนประกันสังคมที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญต่อการเติบโตของรายได้ในกลุ่มธุรกิจโรงพยาบาล
นอกจากนี้ กระแสโลกาภิวัตน์และการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) จะเป็นปัจจัยช่วยผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ของภูมิภาคในอนาคตได้
ล่าสุด บริษัทเตรียมเปิดขายกองทุนเปิด วรรณโฮสพีทอล ระหว่างวันที่ 7-17 มี.ค. 59 มูลค่ากองทุน 1,000 ล้านบาท เงินลงทุนขั้นต่ำ 10,000 บาท กองทุนดังกล่าวเน้นลงทุนในหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลที่มีปัจจัยพื้นฐานดีและมีแนวโน้มการเติบโตสูง โดยกองทุนนี้สามารถลงทุนในตราสารทุน ตราสารหนี้ ได้ตั้งแต่ 0-100% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิกองทุน ทำให้กองทุนมีความยืดหยุ่นในการบริหารการลงทุน อีกทั้งกองทุนสามารถกระจายการลงทุนไปยังหุ้นต่างประเทศในกลุ่มโรงพยาบาล โดยมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน โดยขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน
หุ้นกลุ่มโรงพยาบาลที่ฝ่ายลงทุนสนใจเข้าลงทุน ประกอบด้วย หุ้นโรงพยาบาลขนาดใหญ่ อย่างหุ้น BDMS บริษัทกรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หุ้น BH บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) หุ้น CHG บริษัท โรงพยาบาลจุฬารัตน์ จำกัด (มหาชน) หุ้น LPH บริษัท โรงพยาบาล ลาดพร้าว จำกัด (
“หุ้นกลุ่มโรงพยาบาลเอกชนในไทยดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งในแง่ของผลประกอบการและราคาหุ้นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นแต่หากเปรียบเทียบโอกาสของการเติบโตของธุรกิจโรงพยาบาลและแนวโน้มการเติบโตของรายได้ โดยเฉพาะรายได้ของโรงพยาบาลเอกชน หุ้นกลุ่มนี้น่าสนใจโดยปีนี้คาดว่าตัวเลขการเติบโตของรายได้โรงพยาบาลเอกชนน่าจะไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นการเติบโตหลักจากตลาดคนไข้ชาวต่างชาติ”
นายวิน กล่าวว่า ธุรกิจโรงพยาบาลจะเติบโตแบบค่อนข้างมั่นคงและมีความผันผวนต่ำ จึงเหมาะกับการสะสมการออมในระยะยาวและเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ลงทุนที่สนใจลงทุนในหุ้นกลุ่มการแพทย์
ส่วนภาวะตลาดหุ้นไทยที่ขยับตัวเพิ่มขึ้นรอบนี้ เป็นการไหลเข้าของเม็ดเงินลงทุนต่างชาติที่ไหลกลับเข้ามาตามภาวะตลาดน้ำมัน รวมถึงภาพเศรษฐกิจโลก ดังนั้น หากราคาน้ำมันสามารถขยับตัวเกินที่ระดับ 30-40 ดอลลาร์สหรัฐอเมริกาต่อออนซ์ได้ จะหนุนดัชนีหุ้นไทยเติบโตต่อเนื่อง แต่หากราคาขยับไม่ถึงราคาดังกล่าว นักลงทุนจะต้องระมัดระวังการลงทุนพอสมควร สำหรับกลุ่มหลักทรัพย์ที่น่าสนใจ คือ หุ้นกลุ่มธนาคาร กลุ่มสื่อสาร และกลุ่มท่องเที่ยว
"ภาพการลงทุนในตลาดหุ้นไทยตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทยถือว่าเป็นตลาดที่มีผลตอบแทนที่ค่อนข้างดีเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นทั่วโลก โดยจากข้อมูลถึง ณ วันที่ 26 ก.พ. 59 ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทยให้ผลตอบแทนนับตั้งแต่ต้นปีถึง 4.27% ซึ่งดีที่สุดเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นอื่นทั่วโลก” นายวิน กล่าว
ที่มา : นสพ.ข่าวหุ้น วันที่ 8 มีนาคม 2559
- 1030 views