ครม.เห็นชอบมติ ครม.เศรษฐกิจ ที่อนุมัติเพิ่มคนไร้สถานะและสิทธิอีก 208,631 คน เข้าไปในกองทุนคืนสิทธิรักษาพยาบาลตามมติ ครม. 23 มี.ค.53 แล้ว ส่วนกลุ่มนักเรียนอีกกว่า 7 หมื่นคน มีมติว่า ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้เพราะขาดหลักฐาน จึงยังไม่มีความชัดเจนถึงจำนวนที่แท้จริงและอาจมีความซ้ำซ้อนของข้อมูล ให้ สธ. มหาดไทย และ สมช. ตรวจสอบข้อมูลเพื่อยืนยันความถูกต้องแล้วเสนอ ครม.พิจารณาต่อไป
20 เม.ย.58 ในการประชุมคณะรัฐมนตรี ซึ่งมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน มีมติรับทราบตามมติคณะกรรมการรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ในคราวประชุมครั้งที่ 5/2558 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 16 เมษายน 2558 ที่เห็นชอบในหลักการการให้สิทธิ(คืนสิทธิ) ขั้นพื้นฐานด้านสาธารณสุขกับบุคคลที่มีปัญหาสถานะและสิทธิเพิ่มเติม ประกอบด้วย บุคคลที่มีปัญหาสถานะและสิทธิรวมถึงบุตรที่กระทรวงมหาดไทยได้ขึ้นทะเบียน โดยมีเลขประจำตัว 13 หลัก เรียบร้อยแล้ว จำนวน 208,631 คน ตามที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เสนอ
สาระสำคัญของการให้สิทธิ (คืนสิทธิ) ชั้นพื้นฐานด้านสาธารณสุขกับบุคคลเป็นการเพิ่มเติม ประกอบด้วย
1. บุคคลที่มีปัญหาสถานะและสิทธิที่มีชื่ออยู่ในระบบทะเบียนราษฎรของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย (มท.) แล้ว รวมถึงบุตรของบุคคลดังกล่าวมีเลขประจำตัว 13 หลัก ขึ้นต้นด้วยเลข 0 ประเภททะเบียนราษฎร ท.ร. 38 ก ได้แก่
1.1 ชนกลุ่มน้อยที่อพยพเข้ามาในประเทศไทย ซึ่งเป็นบุคคลเป้าหมายกลุ่มที่ 1 ของยุทธศาสตร์การจัดการปัญหาสถานะและสิทธิของบุคคล
1.2 บุตรของบุคคลตามกลุ่มเป้าหมายของยุทธศาสตร์การจัดการปัญหาสถานะและสิทธิของบุคคล
1.3 บุคคลกลุ่มอื่น ๆ ที่ได้รับการสำรวจและจัดทำทะเบียนตามยุทธศาสตร์การจัดการปัญหาสถานะและสิทธิของบุคคลในโครงการเฉพาะ เช่น บุคคลที่ขึ้นทะเบียนไว้ตามโครงการเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา
สำหรับ เด็กและบุคคลที่เรียนอยู่ในสถานศึกษาของประเทศไทย ซึ่ง ศธ. ได้สำรวจและดำเนินการให้สิทธิขั้นพื้นฐานทางการศึกษาแล้วตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2548 และกำลังอยู่ในระหว่างการจัดทำทะเบียนและกำหนดเลขประจำตัว 13 หลัก ครม.เศรษฐกิจมีมติว่า ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้เพราะขาดหลักฐาน จึงยังไม่มีความชัดเจนถึงจำนวนที่แท้จริงและอาจมีความซ้ำซ้อนของข้อมูล ให้กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย และสภาความมั่นคงแห่งชาติ ตรวจสอบข้อมูลเพื่อยืนยันความถูกต้องและรับรองการขึ้นทะเบียนของกลุ่มบุคคลดังกล่าวก่อนแล้วเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาในโอกาสต่อไป
ทั้งนี้ ข้อเสนอการเพิ่มกลุ่มคนรอพิสูจน์สถานะและสิทธิในครั้งนี้ มีการผลักดันมาอย่างต่อเนื่องจากเครือข่าย 37 องค์กรด้านสาธารณสุขและชาติพันธุ์ และเป็น 1 ในนโยบายของ 2 รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รมว.สธ. และ นพ.สมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์ รมช.สธ. โดยในช่วงแรกมีปัญหาเรื่องข้อเสนอจำนวนที่ไม่ตรงกัน ระหว่างกระทรวงสาธารณสุข และเครือข่าย 37 องค์กรฯ ซึ่ง เครือข่ายเสนอจำนวนที่ 208,631 คน ดังนี้
1) กลุ่มที่มีบัตรประจำตัวประชาชน ขึ้นต้นด้วยเลข 0 ประเภททะเบียนราษฎร์ ทร.38 ก โดยเลขประจำตัวหลักที่ 6 และ 7 เป็นเลข 8 และ 9 (0-xxxx-89xxx-xx-x) ได้รับการสำรวจจัดทำทะเบียนประวัติในกลุ่มชนกลุ่มน้อยที่เข้ามาอยู่ไทยเป็นเวลานาน แต่ตกสำรวจ จำนวน 150,076 คน
2) กลุ่มบุตรของบุคคลที่มีปัญหาสถานะและสิทธิ ที่ไม่มีสถานะทางทะเบียนที่เกิดในประเทศไทยและได้รับการแจ้งเกิด มีสูติบัตร ได้เลข 13 หลักเป็นบุคคลประเภท 0 (บุตรของกลุ่มที่ 1) จำนวน 56,672 ราย
3) กลุ่มคนที่ไม่สามารถพิสูจน์สถานะเกิดซึ่งนายทะเบียนได้จัดทำประวัติให้เป็นบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน มีเลขประจำตัวขึ้นต้นด้วยเลข 0 โดยเลขประจำตัวหลักที่ 6 และ 7 เป็นเลข 0 และ 0 (0-xxxx-00xxx-xx-x) จำนวน 1,883 คน
จนกระทั่งเครือข่าย 37 องค์กรฯ ได้ยื่นหนังสือที่ทำเนียบรัฐบาล และนำไปสู่การปรับจำนวนให้ถูกต้อง ภายหลังต่อมา สธ.จึงนำเสนอจำนวนเพิ่มเติม นอกจาก 208,631 คน โดยเพิ่ม เด็กและนักเรียนที่กำลังเรียนอยู่ในประเทศไทย ซึ่งได้รับสิทธิขั้นพื้นฐานด้านการศึกษาจากกระทรวงศึกษาธิการ อยู่ระหว่างการจัดทำทะเบียนและกำหนดเลขประจำตัว 13 หลัก อีกจำนวน 76,540 คน รวมเป็น 285,171 คน
- 77 views