ตรวจสุขภาพปชช.รอบเหมืองทองพิจิตร พบมีปัญหาสุขภาพ

กรมควบคุมโรค ส่งทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญตรวจสุขภาพผู้ได้รับผลกระทบรอบเหมืองทองคำ ในศูนย์เวชศาสตร์สิ่งแวดล้อม รพ.ทับคล้อ จ.พิจิตร พบผู้มีปัญหาด้านสุขภาพแล้ว 15 ราย 

วันนี้ (24 กุมภาพันธ์ 2558) นพ.โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากที่กรมควบคุมโรค โดยสำนักโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม ได้ปฏิบัติภารกิจเพื่อการเฝ้าระวังและดูแลสุขภาพประชาชนรอบเหมืองทอง 3 จังหวัดรอยต่อ ได้แก่ จังหวัดพิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ เพื่อดำเนินการเฝ้าระวังและดูแลสุขภาพประชาชนในพื้นที่ รวมถึงได้ดำเนินการเปิดศูนย์เวชศาสตร์สิ่งแวดล้อม ณ โรงพยาบาลทับคล้อ จังหวัดพิจิตร โดยมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากโรงพยาบาลรามาธิบดี, สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 8 นครสวรรค์ กรมควบคุมโรค, ผู้แทนจากกรมการแพทย์ รวมถึงคณะแพทย์จากพื้นที่ 3 จังหวัด ให้บริการตรวจสุขภาพผู้ได้รับผลกระทบดังกล่าว  

ซึ่งศูนย์เวชศาสตร์สิ่งแวดล้อม จะเป็นหนึ่งในมาตรการการตรวจคัดกรองสุขภาพประชาชนที่อาศัยรอบเหมืองทองคำทั้งหมด  เพื่อคัดกรองสาเหตุความเสี่ยงการได้รับสารโลหะหนัก นอกจากนี้ยังมีทีมงานจากพื้นที่และส่วนกลางบูรณาการร่วมกันเก็บข้อมูลสุขภาพ การบริโภคน้ำและอาหาร พฤติกรรมเสี่ยง สภาพแวดล้อมในบ้านเรือน ทัศนคติและความเครียด เพื่อประเมินสุขภาพจิตด้วย หากพบผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงและมีปัญหาด้านสุขภาพ จะได้เข้าสู่ระบบการดูแลรักษา จะดำเนินการเฝ้าระวังสุขภาพประชาชนและเฝ้าระวังทางสิ่งแวดล้อมในระยะยาวต่อไป

นพ.โสภณ กล่าวต่อไปว่า ภายหลังจากกรมควบคุมโรค ได้ส่งทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญตรวจสุขภาพผู้ได้รับผลกระทบรอบเหมืองทองคำ ในศูนย์เวชศาสตร์สิ่งแวดล้อม โรงพยาบาลทับคล้อ จังหวัดพิจิตร นั้น ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ดำเนินการเก็บข้อมูลการเจ็บป่วย  ซักประวัติ เจาะเลือด/ตรวจปัสสาวะ และตรวจร่างกาย โดยมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางจากทุกสาขาวิชาชีพ ทั้งแพทย์อาชีวเวชศาสตร์ แพทย์ผิวหนัง พิษวิทยา และแพทย์ทั่วไป ร่วมกันตรวจสุขภาพประชาชนรอบเหมืองทอง 3 จังหวัดรอยต่อ ซึ่งในขณะนี้ได้ตรวจสุขภาพประชาชนไปแล้ว จำนวน 49 ราย พบผู้มีปัญหาด้านสุขภาพ จำนวน 15 ราย แยกตามโรคที่พบ ดังนี้ โรคผิวหนัง 6 ราย, โรคระบบประสาท 6 ราย, โรคจากพิษโลหะหนัก 2 ราย, สงสัยมะเร็งผิวหนัง 1 ราย ทั้งนี้ โรงพยาบาลทับคล้อ จะได้ดำเนินการติดตามและนัดหมายตรวจสุขภาพโดยละเอียดอีกครั้งหากประชาชนมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422