นำร่องกว่า 700 โรงเรียน ส่งเสริมโภชนาการเพิ่มมันสมอง คุณภาพชีวิตเด็กไทย “โครงการเด็กไทยแก้มใส” ถวายเจ้าฟ้านักโภชนาการ วโรกาส “สมเด็จพระเทพฯ” เจริญพระชนมายุครบ 60 พรรษา หลังพบปัญหาเด็กอ้วนรุนแรง โดยเฉพาะ ร.ร.เอกชน 

วันนี้ (21 ต.ค.) ที่โรงแรมเซนทรา ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ สำนักงานโครงการส่วนพระองค์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี กระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กรุงเทพมหานคร กระทรวงสาธารณสุข กรมอนามัย กรมส่งเสริมการเกษตร และสมาคมโภชนาการแห่งประเทศไทยในพระราชูปถัมภ์ฯ จัดพิธี “ประกาศเจตนารมณ์ รวมพลังเพื่อเด็กไทยแก้มใส” โดยมีผู้บริหารโรงเรียนระดับประถมศึกษาเข้าร่วมกว่า 700 โรง
       
ศ.เกียรติคุณ นพ.ไกรสิทธิ์ ตันติศิรินทร์ ประธานโครงการเด็กไทยแก้มใส (Healthy Kids Healthy Food) ถวายเจ้าฟ้านักโภชนาการ กล่าวว่า ในวโรกาสที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ​จะมีพระชนมายุครบ 60 พรรษา​ สสส. พร้อมกับ 9 หน่วยงาน จึงร่วมกันดำเนินโครงการเด็กไทยแก้มใส (Healthy Kids Healthy Food) ดำเนินโครงการเจริญรอยตามพระยุคลบาท เพื่อช่วยส่งเสริมให้เด็กไทยมีภาวะโภชนาการและสุขภาพตลอดจนคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน ซึ่งขณะนี้มีโรงเรียนระดับประถมศึกษาทั่วประเทศให้ความสนใจ พร้อมสมัครเข้าร่วมดำเนินงาน 726 แห่ง แบ่งเป็นโรงเรียนในสังกัดต่างๆ อาทิ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน 611 แห่ง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 67 แห่ง กทม. 10 แห่ง และเอกชน 38 แห่ง โดยมีแนวทางดำเนินงาน ดังนี้ 1. การเกษตรในโรงเรียน 2. สหกรณ์นักเรียน 3. การจัดบริการอาหารของโรงเรียน​ 4. การติดตามภาวะโภชนาการ​ 5. การพัฒนาสุขนิสัยของนักเรียน 6. การพัฒนาอนามัยสิ่งแวดล้อมของโรงเรียนให้ถูกสุขลักษณะ 7. การจัดการบริการสุขภาพ​ 8. การจัดการเรียนรู้ : เกษตร โภชนาการและสุขภาพพอนามัย
       
ศ.เกียรติคุณ นพ.ไกรสิทธิ์ กล่าวว่า จากการดำเนินโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวันของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทำให้ภาวะทุพโภชนาการในพื้นที่ห่างไกลชายแดนลดลงอย่างมาก คาดว่าไม่เกินร้อยละ 10 โดยมีภาวะอ้วนร้อยละ 2-3 ต่างจากสถานการณ์ในพื้นที่เขตเมืองโดยเฉพาะ กทม. ที่พบว่า ภาวะอ้วนเป็นปัญหาใหญ่ โดยมีสัดส่วนเด็กอ้วนมากกว่าร้อยละ 10 ยิ่งในโรงเรียนสังกัดเอกชนจะพบสถานการณ์ปัญหาที่รุนแรงมาก พบเด็กอ้วนในสัดส่วนมากกว่าร้อยละ 40 ถือเป็นความสำคัญที่ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกัน หากทุกโรงเรียน ชุมชน และครอบครัว ตระหนักถึงปัญหาและช่วยกัน ทั้งนี้ เชื่อว่าภายใน 2 ปีแรกของการดำเนินโครงการเด็กไทยแก้มใส จะเริ่มเห็นแนวโน้มสถานการณ์ที่ดีขึ้นอัตราของเด็กอ้วนจะเริ่มลดลงได้ ซึ่งการเปิดโครงการเด็กไทยแก้มใส ถือเป็นการสร้างเจตนารมณ์ร่วมกันให้เกิดความมุ่งมั่นเปลี่ยนแปลงคุณภาพเด็กไทย
       
นางสุทธศรี วงษ์สมาน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า กระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะดูแลโรงเรียนทั่วประเทศ ได้ให้ความสำคัญกับโครงการเด็กไทยแก้มใสเป็นลำดับแรก และได้เตรียมพัฒนาแนวทางบูรณาการโครงการนี้ร่วมกับกองทุนอาหารกลางวันเพื่อให้เกิดความยั่งยืนต่อไป
       
นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า การพัฒนาทักษะในด้านการจัดการอาหารในโรงเรียน ​​โภชนาการและสุขภาพอนามัย​ ถือเป็นจุดเริ่มต้นของ​การพัฒนาทักษะในการดำรงชีวิตของเด็ก โดยใช้คู่มือที่ประมวลองค์ความรู้จากโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวันตามแนวพระราชดำริ ในโครงการเด็กไทยแกมใสนี้ กรมอนามัย ร่วมพัฒนาคู่มือฝึกอบรม เครื่องมือติดตามผลสำหรับครูและผู้บริหารโรงเรียน รวมทั้งจัดให้นักวิชาการประจำศูนย์อนามัยเขต 12 เขตทั่วประเทศ เป็นพี่เลี้ยง