ความกังวลต่อสถานการณ์ “การค้ามนุษย์” ในประเทศไทย ของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ถูกส่งออกมาในช่วงค่ำของวันที่ 20 มิ.ย.ที่ผ่านมา ผ่านรายงานคืนความสุขให้คนในชาติ
“ล่าสุดจากการประเมินของรัฐบาลสหรัฐอเมริกาที่อาจจะพิจารณาสถานการณ์การค้ามนุษย์ของไทย อาจถูกปรับลดจาก TIER 2 WATCH LIST เป็น TIER 3 ซึ่งจะส่งผลกระทบกับสิทธิในการค้าการลงทุนต่างๆ ของประเทศ ดังนั้นคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)จำเป็นต้องเร่งรีบในการกำจัดกลุ่มผู้มีอิทธิพลเหล่านี้ และจัดระเบียบแรงงานโดยเร็วที่สุด”
อย่างไรก็ดี ดูเหมือนว่าความพยายามดังกล่าวจะไม่ท่วงที และเจตนารมณ์ข้างต้นก็ไม่เป็นผลให้มหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกาเปลี่ยนท่าทีต่อสถานการณ์ในประเทศไทย
นั่นเพราะในเวลาไล่เลี่ยกัน กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกาได้เปิดเผยรายงานสถานการณ์ค้ามนุษย์ทั่วโลก ประจำปี 2557โดยได้ “ปรับลด” เครดิตประเทศไทยจาก TIER 2 WATCH LIST เป็น TIER 3 จริงๆ
ตอนหนึ่งของรายงานฉบับดังกล่าว ระบุว่า จากการประเมินคร่าวๆ พบว่าเหยื่อการค้ามนุษย์ในประเทศไทยมีหลายหมื่นราย ส่วนใหญ่เป็นแรงงานอพยพจากเพื่อนบ้าน ถูกบังคับขู่เข็ญล่อลวงให้เป็นแรงงานทาส หรือการค้าบริการทางเพศ และเหยื่อส่วนใหญ่ถูกชักจูงเข้าไปในอุตสาหกรรมประมง การผลิตเสื้อผ้า และงานบ้าน
นอกจากนี้ ยังพบว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายพลเรือนและนาวิกโยธินของประเทศไทยมีส่วนสมรู้ร่วมคิดในอาชญากรรมที่เกี่ยวกับการเอาเปรียบชาวมุสลิมโรฮิงญาหลายหมื่นคน ที่หลบหนีออกจากพม่าในรอบปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ประเทศไทยถูกจัดอันดับให้อยู่ในกลุ่ม TIER 3 ซึ่งเป็นกลุ่มล่างสุดที่มีสถานการณ์ค้ามนุษย์รุนแรงที่สุด โดยอยู่ในระนาบเดียวกันกับประเทศซีเรีย เกาหลีเหนือ ซิมบับเว สาธารณรัฐแอฟริกากลาง อิหร่าน ซาอุดิอาระเบีย เนื่องจากไม่มีพัฒนาการเรื่องการดูแลแรงงาน และไม่ได้ปกป้องแรงงานจากการถูกกระทำ
“ตามข้อกำหนดของรัฐสภาแห่งสหรัฐอเมริกา (สภาคองเกรส) คือประเทศหนึ่งๆ จะอยู่ใน TIER 2 WATCH LIST ได้เพียง 2 ปีเท่านั้น เมื่อครบกำหนดจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงอย่างใดอย่างหนึ่ง กล่าวคือถ้าไม่เลื่อนอันดับขึ้นไปอยู่ใน TIER 2 ปกติ ก็ต้องตกลงมาอยู่ในTIER 3 เลย ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกาเห็นว่าประเทศไทยไม่มีความก้าวหน้าในเรื่องนี้เพียงพอ จึงปรับลดอันดับลงไปอยู่ที่TIER 3”
จอห์น แคร์รี่ รมว.ต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ระบุว่า ในปี 2557 นี้ ได้รับลดอันดับของประเทศไทย-มาเลเซีย-เวเนซุเอลา ลงมาอยู่ในบัญชีประเทศที่สถานการณ์การค้ามนุษย์ร้ายแรงที่สุดในโลก ในการนี้อาจจะเปิดทางไปสู่การใช้มาตรการ “คว่ำบาตร” ต่อไป
ทว่า ช่วงเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ประเทศไทยได้ยื่นรายงานจำนวน 78 หน้า ต่อสหรัฐอเมริกาเพื่อชี้แจงมาตรการในการจัดการปัญหาการค้ามนุษย์ พร้อมทั้งแสดงความหวังว่าจะได้รับการพิจารณาปรับอันดับเพิ่มขึ้นในทิศทางที่ดี อย่างไรก็ตามเมื่อที่สุดแล้วประเทศไทยถูกปรับลดเครดิตลง ผลกระทบที่เกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้คือมิติเศรษฐกิจ
นั่นเพราะ การลดอันดับดังกล่าวอาจจะทำให้บริษัทข้ามชาติบางแห่งต้องทบทวนนโยบายการลงทุนในอุตสาหกรรมที่ถูกกล่าวหาว่าใช้แรงงานทาส อาทิ ภาคประมง นอกจากนี้ประเทศที่ถูกปรับลดเครดิตมาอยู่ในระดับ TIER 3 นั้น อาจจะไม่ได้รับการช่วยเหลือจากสหรัฐ และอาจจะถูกสหรัฐคัดค้านไม่ให้ได้รับการช่วยเหลือจากสถาบันระหว่างประเทศ เช่นกองทุนการเงินระหว่างประเทศ และธนาคารโลก
ทรงศัก สายเชื้อ กรมอเมริกาและแปซิฟิกใต้ กระทรวงการต่างประเทศ ยอมรับว่า เมื่อถูกปรับลดอันดับลงอยู่ใน TIER 3 แล้ว มีโอกาสถูกตัดความช่วยเหลือผ่านสถาบันการเงินระหว่างประเทศ และยังมีผลในเชิงจิตวิทยาที่จะถูกประเทศคู่แข่งทางการค้านำไปขยายผลว่าอุตสาหกรรมการค้าของไทยมีการค้ามนุษย์ ใช้แรงงานเด็กและแรงงานบังคับ
อย่างไรก็ตาม แม้ว่ารายงานฉบับดังกล่าวซึ่งครอบคลุมสถานการณ์ระหว่างวันที่ 1 เม.ย.2556 - 31 มี.ค.2557 จะประกาศออกมาสู่สายตาสาธารณชนทั่วโลก แต่ทาง “คสช.” ก็ยังเดินหน้ามาตรการ “เข้มข้น” ในการปราบปรามขบวนการค้ามนุษย์ โดยเฉพาะ “นายหน้า”เก็บหัวคิว
“คสช.จะมุ่งเน้นกำจัดกลุ่มผู้มีอิทธิพลที่ลักลอบนำพาแรงงานที่ผิดกฎหมาย รีดไถ เรียกเก็บค่าคุ้มครอง เรียกเก็บค่าใช้จ่าย ซึ่งจากข้อมูลด้านการข่าว การนำพาแรงงานเข้าประเทศนั้นอาจถึงรายละ 2 หมื่นบาท เริ่มในประเทศเพื่อนบ้านและเข้าสู่ขบวนการลักลอบนำพาแรงงานเข้าประเทศไทยในพื้นที่ตอนใน เมื่อเข้ามาพื้นที่ตอนในแล้วต้องจ่ายให้กับผู้มีอิทธิพลในประเทศเพิ่มเติมประมาณ หัวละ 8,000-1 หมื่นบาท นอกจากนั้นยังมีค่าใช้จ่ายตามกฎหมายในการขึ้นทะเบียนอีกจำนวนหนึ่ง” พล.อ.ประยุทธ์ ระบุชัด
สำหรับแนวทางการแก้ปัญหาแรงงานต่างด้าว ระยะที่ 1 เป็นการผ่อนผันให้แรงงานทั้งในและนอกระบบได้ทำงานไปพลางก่อน เพื่อปิดช่องว่างไม่ให้กลุ่มผู้มีอิทธิพลและนายทุนแสวงประโยชน์จากผู้ใช้แรงงาน แต่ต้องขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการให้ปฏิบัติตามมาตรการต่างๆ เพื่อที่จะนำพาแรงงานเหล่านั้นเข้าสู่ระบบตามกฎหมายต่อไป
ระยะที่ 2 จะดำเนินการจัดระเบียบควบคุมแรงงานทั้งระบบให้ถูกต้อง จะต้องจัดเตรียมโซนนิ่งเพื่อให้แรงงานได้มีพื้นที่พักอาศัยที่เป็นระเบียบเรียบร้อย มีการกำกับดูแลไม่ให้มีการละเมิดสิทธิมนุษยชน มีการจัดตั้งศูนย์พิสูจน์สัญชาติร่วมกับมิตรประเทศหรือประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อหาที่มาของกลุ่มบุคคลลักลอบเข้ามาที่มีสัญชาติไม่ชัดเจน และจัดตั้งศูนย์รับส่งคนงานที่ถูกกฎหมาย ในการจะนำเข้าและส่งกลับประเทศต้นทาง
ชัดเจนว่าทหารมีข้อมูลอยู่ในมือ และเชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ ทราบดีว่าผู้มีอิทธิพลเป็นใคร ... นอกจากคืนความสุขให้คนไทย โอกาสนี้สามารถคืนความสุขให้เพื่อนมนุษย์ด้วยกันด้วย
ถ้า คสช. ไม่สามารถกวาดล้างขบวนการค้ามนุษย์-นายหน้ากินหัวคิวได้ อนาคตก็คงหมดหวังเต็มที
- 395 views