พ่อค้าแม่ค้าขูดรีดขึ้นราคาสมุนไพรส่วนประกอบ “ยารักษามะเร็งตับ” กว่าเท่าตัว กรมแพทย์แผนไทยฯวอนอย่าโขกราคา เสี่ยงกระทบผู้ป่วย ชี้บางตัวต้องนำเข้าจากต่างประเทศ ชวน้เกษตรกรหันปลูกแก้ปัญหา เตือนอย่าซื้อสมุนไพรมาผสมกินเอง มีผลต่อตับ ไต ทำลายเซลล์ อาจถึงตาย

 วันนี้ (25 ก.พ.) ที่โรงแรมรามาการ์เดนท์ นพ.ธวัชชัย กมลธรรม อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า หลังเปิดตัวสูตรยา “ตำรับเบญจอำมฤตย์” ซึ่งเป็นสูตรยาในตำรับแพทยศาสตร์สงเคราะห์ ประกอบด้วย รงทอง มหาหิงค์ ยาดำ ตองแตก (ทนดี) พริกไทย ดีปลี ดีเกลือฝรั่ง มะกรูด และขิง ในการบำบัดผู้ป่วยมะเร็งตับระยะสุดท้าย และแจกฟรีให้แก่ผู้ป่วยที่มารักษาใน รพ.การแพทย์ผสมผสานที่ยศเส เนื่องจากตัวยาผ่านการศึกษาวิจัยจากคณะแพทยศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ พบว่าสามารถลดเซลล์มะเร็งในสัตว์ทดลองได้อย่างมีนัยยะ โดยเฉพาะเซลล์มะเร็งตับ จึงนำมาสู่การทดลองในระดับอาสาสมัคร คือ กลุ่มผู้ป่วยมะเร็งตับระยะสุดท้าย ที่ไม่สามารถรักษาด้วยวิธีอื่น ในโครงการจึงเปิดโอกาสให้แก่ผู้ป่วยมะเร็งตับระยะสุดท้ายได้รับยาดังกล่าวที่ รพ.ยศเส
       
นพ.ธวัชชัย กล่าวว่า ผลปรากฏว่าตลอด 20 วันได้รับความสนใจจากผู้ป่วยจำนวนมากเฉลี่ยวันละ 80-150 คน โดยรวมยอดถึงวันที่ 25 ก.พ.มีผู้ป่วยเข้ามาแล้วกว่า 2,000 ราย จำนวนนี้มีผู้ป่วยที่สมัครใจเข้ารับการรักษาแบบให้ติดตามผลอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 5 ปีมีจำนวน 50 ราย เป็นผู้ชาย 35 ราย ผู้หญิง 15 ราย จากการติดตามอาการเบื้องต้นพบว่า อาการดีขึ้น ลดอาการแน่นท้อง ท้องอืดได้ และยังลดภาวะท้องมานลงได้ด้วย และในอนาคตจะติดตามว่าเซลล์มะเร็งลดลงด้วยหรือไม่ ทั้งนี้ ในโครงการยังเปิดรับสมัครอีก 50 ราย เพื่อให้ได้ผลการติดตามอาการอย่างเป็นทางการ
       
“จากการตอบรับดังกล่าว ทำให้สูตรยาเบญจอำมฤตย์ได้รับความสนใจมาก ปัญหาคือ ประชาชนแห่กันไปซื้อวัตถุดิบและนำมาผสมกันกินแก้โรคเอง ซึ่งอันตรายมาก เพราะปริมาณที่ลดเซลล์มะเร็งตับในการทดลองนั้น พบว่าต้องใช้สูตรยาเพียง 0.22 ไมโครกรัมต่อซีซี แต่ประชาชนนำไปใช้เองย่อมไม่ทราบ จึงถือว่าอันตราย ส่งผลต่อตับและไต ได้โดยตรง และอาจทำลายเซลล์อวัยวะดีส่วนอื่นๆ และอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้” นพ.ธวัชชัย กล่าวและว่า จากจุดนี้ทำให้พ่อค้า แม่ค้าหัวใสขึ้นราคาวัตถุดิบ โดยเฉพาะรงทอง จากเดิมราคา 300 บาทต่อกิโลกรัม เป็น 800 บาทต่อกิโลกรัม ยาดำ จากเดิม 400-500 บาทต่อกิโลกรัมเป็น 600-800 บาทต่อกิโลกรัม มหาหิงค์จากเดิม 350-450 บาทต่อกิโลกรัมเป็น 550 บาทต่อกิโลกรัม
       
ภญ.ดลิชา ชั่งสิริพร หัวหน้างานแพทย์แผนไทย รพ.อู่ทอง กล่าวว่า ขณะนี้ รพ.อู่ทองเป็นแหล่งผลิตในภาคกลางที่มีสต๊อกวัตถุดิบ สามารถผลิตได้ประมาณ 200,000 เม็ด ราคาตกเม็ดละ 5 บาท โดยรวมผู้ป่วยจะทานวันละ 3-5 เม็ดต่อมื้อ โดยทานวันละ 2 มื้อ ดังนั้น จะมีราคาไม่เกินวันละ 50 บาท แม้ราคาไม่แพง แต่หากวัตถุดิบยังขึ้นราคาก็อาจเกิดผลกระทบ ที่สำคัญปัจจุบันต้องนำเข้าในตัวรงทองจากกัมพูชา ยาดำจากแอฟริกา และมหาหิงค์จากอินเดีย ทำให้วัตถุดิบยิ่งหายาก และสุดท้ายก็จะขาดตลาด ส่งผลต่อผู้ป่วยไม่มียารับประทาน จึงอยากขอให้ผู้ขายเห็นใจ อย่าขึ้นราคา เพราะโครงการนี้ทำเพื่อผู้ป่วย ส่วนเกษตรกรอยากให้หันมาปลูกพืชสมุนไพรช่วยลดปัญหาวัตถุดิบ เช่น รงทองสามารถปลูกได้ โดยเฉพาะจันทบุรี มีสภาพภูมิประเทศที่ปลูกได้