สธ.วอนม็อบอย่าขวางช่วยคนเจ็บ ยันปฏิบัติเท่าเทียม

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข แถลงขอม็อบอย่าขัดขวางการช่วยเหลือช่วยคนบาดเจ็บ ชี้ไร้มนุษยธรรม ยันดูแลทุกฝ่ายเสมอภาค ไม่เลือกปฏิบัติ

เมื่อวันที่ 28 ธ.ค. นายแพทย์ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ออกมาแถลงการณ์ว่า การดูแลผู้บาดเจ็บในการชุมนุม บทบาทของกระทวงสาธารณสุข ซึ่งมีประเด็นสำคัญที่ต้องออกมารายงานต่อประชาชน โดยหลักการและนโยบายการดูแลผู้บาดเจ็บในสถานการณ์ชุมนุมนั้น สิ่งสำคัญคือทางสาธารณสุขจะดูแลประชาชนทุนคนอย่างเท่าเทียมกันหมดโดยไม่เลือกปฏิบัติ และจะเน้นเรื่องความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ทุกคนที่เข้าไปดูแลผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ

ขณะที่ การดูแลผู้บาดเจ็บจะมีการทำงานประสานกันอยู่ 3 กลุ่ม คือ กลุ่มแพทย์อาสา ที่จะมีการเข้าไปตั้งโรงพยาบาลสนามในบริเวณที่มีพื้นที่การชุมนุม ซึ่งทางสาธารณสุขจะช่วยสนับสนุนด้วยการส่งยาและเวชภัณฑ์ต่างๆ เข้าไปให้ อีกทั้ง ยังมีมูลนิธิต่างๆ เข้ามาช่วยในส่วนของการลำเลียงผู้ป่วยที่ได้รับบาดเจ็บ เพื่อนำไปส่งโรงพยาบาลที่เป็นจุดนัดของโรงพยาบาลที่อยู่ในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็นการทำงานที่ประสานกันมาโดยตลอด

จากสถานการณ์ ณ ขณะนี้ มีผู้ป่วยและผู้บาดเจ็บ จากการชุมนุมนี้ทั้งหมด 157 ราย โดย 119 รายเป็นพลเรือน มีผู้เสียชีวิตจำนวน 2 ราย ส่วนใหญ่ของผู้ที่บาดเจ็บ จะมีสาเหตุมาจากแก๊สน้ำตา ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ มีผู้บาดเจ็บทั้งหมด 38 ราย เสียชีวิต 2 ราย แต่ประเด็นที่น่าสนใจคือ เจ้าหน้าที่ตำรวจส่วนใหญ่ถูกทำร้ายด้วยอาวุธปืน

ในวันที่ 26 ธ.ค.ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุปะทะกันนั้น จึงทำให้ ด.ต.ณรงค์ ปิติสิทธิ์ ถูกกระสุนปืนยิงเข้าไปบริเวณหน้าอก แต่ในขณะที่มีการช่วยเหลือ ด.ต.ณรงค์ ได้มีผู้ที่ต้องการจะเข้ามาขัดขวางช่วยชีวิต โดยการใช้ปืนยิงเข้ามาบริเวณที่มีการช่วยชีวิตอยู่ ถึงแม้ในช่วงที่จะส่ง ด.ต.ณรงค์ ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ เพื่อไปทำการรักษาต่อที่โรงพยาบาลตำรวจ ก็ยังมีการระดมยิงเข้ามาขัดขวางการช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง แม้กระทั่ง มีการร้องขอจากนักข่าว และเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปช่วยเหลือ ด.ต.ณรงค์ แต่ก็ยังยิงเข้ามาเรื่อยๆ โดยไม่หยุด และในช่วงที่มีการลำเลียงขึ้นไปบนเฮลิคอปเตอร์ ก็ยังยิงทะลุเข้ามาบริเวณกระจก แต่เดชะบุญที่ไม่ยิงเข้าไปโดนห้องเครื่องสำคัญที่ควบคุมการบิน ซึ่งอาจจะทำให้เกิดความสูญเสียทั้งในส่วนของนักบินและผู้บาดเจ็บได้ และด้วยการขัดขวางการรักษา จึงทำให้การช่วยชีวิต ด.ต.ณรงค์ ล่าช้าออกไป ซึ่งเป็นเหตุให้ต่อมา ด.ต.ณรงค์ เสียชีวิตด้วยการตกเลือด

อย่างไรก็ตาม ทางกระทรวงสาธารณสุขขอวิงวอนผู้ชุมนุมอย่าใช้กำลังประทุษร้าย โดยเฉพาะการขัดขวางการเข้าช่วยเหลือชีวิตผู้บาดเจ็บตามหลักมนุษยธรรม ไม่ควรใช้ความรุนแรงทำร้ายแม้กระทั่งคนที่เข้าไปช่วยชีวิต