ลอนดอน : นักวิจัยมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดของอังกฤษศึกษาพบไวรัส HPV เชื่อมโยงมะเร็งคอ หลังพบผู้ป่วยมะเร็งคอ 1 ใน 3 ติดเชื้อ HPV

ทีมนักวิจัยมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดของอังกฤษศึกษาพบสิ่งที่ช่วยยืนยันความสัมพันธ์ระหว่าง เชื้อไวรัส Human Papilloma Virus (HPV) และโรคมะเร็งลำคอ โดยพบผู้ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งคอ 1 ใน 3 ติดเชื้อ HPV

ทั้งนี้ เชื้อ HPV เป็นสาเหตุสำคัญของมะเร็งปากมดลูก โดยติดต่อผ่านการมีเพศสัมพันธ์ และก่อนหน้านี้เคยมีรายงานการเปิดเผย ของดาราภาพยนตร์ชื่อดังของฮอลลีวู้ดรายหนึ่งว่า เชื้อดังกล่าวเกี่ยวพันกับมะเร็งคอ การศึกษาใหม่จึงนับว่าช่วยยืนยันได้อีกครั้ง

เชื้อ HPV มีอยู่มากกว่า 100 ชนิด ทุกคนมีโอกาสติดเชื้อได้ แต่ส่วนใหญ่จะมีระบบภูมิคุ้มกันช่วยป้องกัน ยกเว้นจะโชคร้ายปล่อยให้ร่างกายอ่อนแอ ติดเชื้อได้ง่าย โดยเชื้อที่เป็นสาเหตุสำคัญของมะเร็ง ได้แก่ HPV-16 และ HPV-18 โดยเฉพาะ HPV-16 เชื่อว่าเป็นสาเหตุของมะเร็งปากมดลูกประมาณ 60% เป็นสาเหตุของมะเร็งทวารหนักราว 80% และประมาณ 60% ของมะเร็งในช่องปากและคอ ซึ่งมีผู้ป่วยเป็นโรคนี้จำนวนมาก เฉพาะในอังกฤษมีผู้ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคนี้ราว 1,500 คนต่อปี และเสียชีวิตประมาณ 470 คนต่อปี

ส่วนการศึกษาล่าสุด นักวิจัย ดูการเชื่อมโยงของมะเร็งด้านหลังคอ หอย โดยดูผลทดสอบเลือดของผู้เข้า ร่วมการศึกษาที่เป็นผู้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงดีทั้งหมดตั้งแต่เริ่มการศึกษา ซึ่งในตัวอย่างเลือดนักวิจัยจะสามารถตรวจสอบแอนติบอดีต้านโปรตีนร้าย "E6" ของ HPV ได้ว่ามีอยู่หรือไม่ หากมีแอนติบอดีอยู่แสดงว่า HPV สามารถเอาชนะระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายได้ และจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในเซลล์กลายเป็นมะเร็งในที่สุด ซึ่งจากการเปรียบเทียบผลการตรวจเลือดของ 135 คนที่ป่วยเป็นมะเร็งคอ และ 1,599 คนที่ไม่เป็นมะเร็ง พบว่า 35% คนที่ป่วยเป็นมะเร็งคอมีแอนติบอดีเทียบกับเพียงเล็กน้อยไม่ถึง 1% ในกลุ่มผู้ไม่เป็นมะเร็ง

ที่มา: หนังสือพิมพ์โลกวันนี้  วันที่ 24 กรกฎาคม 2556