นายนิมิตร์ เทียนอุดม ผอ.มูลนิธิเข้าถึงเอดส์ กล่าวว่า ประเทศไทยได้รับการสนับสนุนด้านสาธารณสุขสำหรับโรคเอดส์ให้กับเครือข่ายผู้ป่วยเอชไอวี จากกองทุนโลก (Global Fund) เพื่อขับเคลื่อนงานด้านสิทธิสุขภาพของผู้ป่วยโรคเอดส์ ซึ่งกองทุนโลกได้ให้งบประมาณมาอย่างต่อเนื่อง โดยในแต่ละปีประเทศไทยได้รับงบประมาณจากกองทุนโลกอยู่ประมาณ 700 ล้านบาท แต่ปัจจุบันระยะเวลาของโครงการที่ไทยทำกับกองทุนโลกกำลังจะสิ้นสุด และจะต้องเสนอโครงการต่อ แต่กังวลว่ากองทุนโลกจะให้งบประมาณแก่ประเทศที่มีรายได้ผลิตภัณฑ์มวลรวมระดับปานกลางน้อยลงหรืออาจจะไม่ได้รับงบประมาณต่อ ซึ่งประเทศไทยอยู่ในกลุ่มนี้ หากไม่ได้รับงบฯ ก็จำเป็นต้องหาแหล่งงบประมาณจากภายในประเทศแทน
นายนิมิตร์กล่าวต่อว่า จากการประชุมคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์ ซึ่งมีนายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานมีมติให้กระทรวงที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญในการป้องกันโรคเอดส์ เพื่อลดปัญหาการติดเชื้อรายใหม่ โดยในอนาคตกระทรวงต่างๆ จะต้องบูรณาการทำงานและสนับสนุนงบด้านนี้ โดยตั้งเป็นกองทุนเพื่อทำงานด้านเอดส์ โดยเฉพาะการให้ความรู้ ส่งเสริม ป้องกันโรค กองทุนไม่ได้ตั้งขึ้นแบบมี พ.ร.บ. แต่เป็นกองทุนที่รับการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐ และอาจจะมีการขอสนับสนุนงบประมาณจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) หรือสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ปัจจุบันอยู่ระหว่างการร่างแผนงาน
"ปัจจุบันสถานการณ์การติดเชื้อของผู้ป่วยรายใหม่ แม้ว่าจะมีอัตราการติดเชื้อเพิ่มลดลงจากช่วง 10 ปีที่ผ่านมา แต่ถือเป็นอัตราการลดลงที่ยังน้อย เพราะอยู่ในหลักหมื่นจำเป็นต้องทำงานเพื่อลดจำนวนผู้ติดเชื้อลงตามเป้าหมาย โดยพบว่าการให้ความรู้เด็กทำได้เพียงไม่ถึงครึ่งของโรงเรียนทั้งหมด ซึ่งกระทรวงศึกษาฯจำเป็นต้องนำโครงการไปขยายต่อด้วย" นายนิมิตร์ กล่าว
--ข่าวสด ฉบับวันที่ 24 มิ.ย. 2556 (กรอบบ่าย)--
- 3 views