คณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือนของกระทรวงสาธารณสุขที่มี นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน มีมติไล่ออกข้าราชการฐานทำผิดวินัยร้ายแรง กรณีการสั่งซื้อและ การเบิกยาแก้หวัดสูตรผสมซูโดอีเฟดรีน ภายหลังจากตรวจพบความผิดปกติการสั่งซื้อและเบิกจ่ายยา จนเป็นเหตุให้ยาสูญหาย โดยสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน โรงพยาบาล (รพ.) อุดรธานี จ.อุดรธานี, รพ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ, รพ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์, รพ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู, รพ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์, รพ.ทองแสนขัน จ.อุตรดิตถ์, รพ.ฮอด รพ.ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ และ รพ.เสริมงาม จ.ลำปาง มาก่อนหน้านี้
นอกจากข้าราชการที่อยู่ในข่ายผิดวินัยร้ายแรงแล้ว ยังมีข้าราชการอีก 23 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นระดับผู้อำนวยการ มีความผิดวินัยไม่ร้ายแรง เหตุเพราะควบคุมกำกับไม่ดีพอทำให้ยาสูญหาย ซึ่งโทษสูงสุด คือ ตัดเงินเดือน และรองลงมาคือ ภาคทัณฑ์ ขณะที่ความผิดฐานละเมิดและต้องมีการชดใช้นั้น เบื้องต้นพบยาหายไปจากโรงพยาบาลประมาณ 12 ล้านเม็ด รวมมูลค่าประมาณ 15 ล้านบาท ทางสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขได้มอบหมายให้จังหวัดตั้งคณะกรรมการพิจารณาความผิดทางวินัยขึ้น เพื่อหาคนชดใช้ หลังจากพิจารณาแล้วก็จะส่งเรื่องมาให้กระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงการคลัง ในฐานะเจ้าของเงินทราบ เพื่อดำเนินการเรียกเงิน ถ้าบุคคลที่ต้องชดใช้ไม่ยอมชดใช้ก็จะเข้าสู่กระบวนการฟ้องร้องต่อไป
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อมีการตรวจจับยาบ้าและพบว่ามีการนำเอายาแก้หวัดผสมซูโดเป็นส่วนผสม โดยยาแก้หวัดสูตรซูโด 1 เม็ด หากนำไปใช้ทำยาบ้าสามารถทำได้หลายเม็ด และยังพบอีกว่ายาแก้หวัดส่วนผสมซูโดดังกล่าวมีการเบิกจ่ายกันมากจนผิดสังเกต กระทรวงสาธารณสุขจึงสั่งเรียกยาแก้หวัดผสมซูโดคืน และห้ามขาย ขณะเดียวกันได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนขึ้นมา เพราะยาแก้หวัดสูตรดังกล่าวเป็นยาที่เภสัชกรหรือแพทย์ต้องมีคำสั่งจึงสามารถจำหน่ายได้ หลังจากที่กระทรวงสาธารณสุขได้สอบสวนพบว่า มีขบวนการลักลอบนำยาแก้หวัดผสมซูโดออกจากระบบของโรงพยาบาลแต่ละแห่งจริง จึงมีการลงโทษ
การปฏิบัติการครั้งนี้ถือว่าเป็นการปฏิบัติเพื่อป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ขณะเดียวกันก็เป็นการปฏิบัติเพื่อป้องกันและปราบปรามการทุจริตไปพร้อมกัน หลังจากการสอบสวนกรณีนี้เสร็จสิ้น เชื่อว่าข้อมูลต่างๆ คงปรากฏชัด กระทรวงสาธารณสุขน่าจะประเมินจุดโหว่ที่เกิดขึ้นว่ามาจากเหตุใด เป็นเหตุจากการปฏิบัติหน้าที่ของคน หรือมาจากความผิดของตัวยา เพื่อนำผลการประเมินนั้นมาปรับให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่คนไทยต่อไป เช่น วางระบบป้องกันมิให้บกพร่องผิดพลาด หรือทบทวนการใช้ยาแก้หวัดสูตรซูโดที่ถูกสั่งระงับไป หรือหนทางอื่นใดที่ทำให้คนดีได้ใช้ยาที่มีประสิทธิภาพ และไม่เปิดโอกาสให้คนร้ายนำส่วนผสมของยาดีๆ ไปทำยาเสพติดทำร้ายคน
ที่มา: นสพ.มติชน วันที่ 29 กันยายน 2555
- 4 views