ข้องใจสธ.เร่งซื้อวัคซีนมะเร็งปากมดลูกจับตาฮั้วนักการเมือง-บริษัทยา

นางสาวสุรีรัตน์ ตรีมรรคา ผู้ประสานงานกลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ กล่าวว่า จากการที่กระทรวงสาธารณสุขโดยการผลักดันของ รมช.สธ. เดินหน้าให้มีการซื้อวัคซีนมะเร็งปากมดลูกนั้น เป็นที่น่าสงสัยว่ามีผลประโยชน์ใดแอบแฝงหรือไม่ เพราะเป็นการเร่งดำเนินการโดยไม่ฟังความเห็นทางวิชาการที่รอบด้าน และไม่ผ่านกระบวนการจัดทำชุดสิทธิประโยชน์การรักษาของประชาชนในระบบบัตรทอง ซึ่งเป็นระบบที่มีส่วนร่วมของทั้งหมอผู้ให้บริการ ประชาชนผู้รับบริการ ฝ่ายวิชาการ และผู้บริหารระบบ ถือว่านี่เป็นการฮั้วกันของนักการเมือง ข้าราชการ กลุ่มหมอใน รพ.รัฐ  ในรพ.เอกชน และบริษัทยาข้ามชาติ ที่ชงเองกินเอง ทั้งนี้ วัคซีนมะเร็งปากมดลูก ไม่สามารถป้องกันได้ร้อยเปอร์เซนต์ ไม่คุ้มค่าในการจัดซื้อ จะทำให้ระบบหลักประกันสุขภาพเจอปัญหา เพราะรัฐบาลเพื่อไทย ลดงบประมาณค่าใช้จ่ายรายหัวของคนในบัตรทอง นี่คือขบวนการล้มระบบหลักประกันสุขภาพอย่างแท้จริง  กลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพจึงขอให้สื่อมวลชนไปติดตามว่าการซื้อวัคซีนนี้ ใครได้ค่าหัวคิว กลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพขอให้ลองติดตามล้วงลึกไปที่บริษัทขายวัคซีน และกลุ่มหมอที่อาจเกี่ยวข้องโยงใย 

นางสาวสุรีรัตน์ กล่าวต่อว่า ที่จริงแล้วสามารถต่อรองราคาต่ำกว่า 500 บาทได้ แต่ รมช.สธ.ยังยืนยันอยู่ที่เข็มละ 500 บาท งานวิจัยที่อ้างมานั้น ก็เป็นงานวิจัยที่ทำด้วยบริษัทยาที่เป็นเจ้าของผลผลิตวัคซีน คือ MSD และ GSK น่าสงสัยว่าอาจจะมีการฮั้วกันระหว่างบริษัทวัคซีนข้ามชาติกับคนในกระทรวง ประเทศบราซิล จีดีพีสูงกว่าไทย ยังต่อรองได้ในราคา 150 บาทต่อเข็ม แล้วบริษัทก็เคยมาเสนอในสมัยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ เป็น รมว.สธ. ที่ 190 บาทต่อเข็ม ที่สำคัญเมื่อเดือนก่อนรัฐมนตรีวิทยาก็พูดว่าต้องต่ำกว่าเข็มละ 200 บาท แต่ตอนนี้ทำไมรัฐมนตรีช่วยต้องยันที่ 500 บาทต่อเข็ม พฤติกรรมเช่นนี้แสดงถึงความไม่โปร่งใสในการดำเนินการ ขณะเดียวกันทราบว่ามีความพยายามดันโครงการนี้ว่าเป็นโครงการเฉลิมพระเกียรติ ขอร้องว่าอย่าทำสถาบันแปดเปื้อน หากยังทำไม่โปร่งใส ตรงไปตรงมาแบบนี้

 “ที่น่าคิดคือ กลุ่มหมอใน สธ. หมอในรพ.ศูนย์ รพ.ทั่วไป  กลับเงียบเชียบไม่ออกมาตรวจสอบกันเลย หรือเป็นเพราะมีส่วนร่วมในขบวนการนี้ด้วย ตนขอร้องเรียนต่อสังคมว่ากลุ่มหมอที่ออกมาป่าวร้องเรื่องที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ถูก สตง. ตรวจสอบหาว่ามีเรื่องทุจริตลามไปให้ตรวจสอบบอร์ดหลักประกันสุขภาพย้อนหลังไป 10 ปีด้วยนั้น เป็นกลุ่มหมอที่มีความน่าเคลือบแคลงสงสัยว่า รักระบบหลักประกันสุขภาพ หรือเกลียดและอยากให้ล้มๆไป ดังที่เสนอว่าให้กลับไปอยู่กระทรวงสาธารณสุข ให้ยุบ สปสช.” ผู้ประสานงานกลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ กล่าว