ผลการศึกษาในวารสารทางการแพทย์ของสหรัฐพบว่า อัตราการเสียชีวิตของผู้ติดเชื้อไวรัส "เอช7 เอ็น9" หรือไข้หวัดนกสายพันธุ์ใหม่ อยู่ที่ 1 ใน 3
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. ว่า เชื้อไวรัสไข้หวัดนกสายพันธุ์ใหม่ "เอช7 เอ็น9" คร่าชีวิตผู้ติดเชื้อทั่วโลกราว 1 ใน 3 นับตั้งแต่มีการพบผู้ป่วยรายแรกเมื่อช่วงต้นปีและมีแนวโน้มจะกลับมาระบาดอีกครั้ง
รายงานวิจัยในเรื่องนี้ได้รับการเผยแพร่ผ่านวารสารทางการแพทย์ "เดอะ แลนเซ็ท" ของสหรัฐ ฉบับล่าสุด ระบุว่า เชื้อไวรัสชนิดดังกล่าวเริ่มแพร่ระบาดในจีนแผ่นดินใหญ่เมื่อช่วงเดือนก.พ. ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขจีนตรวจพบผู้ป่วย 131 คน แต่มีผู้มาเข้ารับการรักษา 123 คน และในจำนวนนี้เสียชีวิต 39 คน คิดเป็น 36% หรือราว 1 ใน 3 มากกว่าอัตราการแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์ "เอช1 เอ็น1" หรือไข้หวัดหมู ที่แพร่ระบาดระหว่างปี 2552-2553 ซึ่งอยู่ที่ 21% " แต่ต่ำกว่าช่วงที่ไวรัสไข้หวัดนก "เอช5 เอ็น1" แพร่ระบาดเมื่อ 10 ปีก่อน ซึ่งผู้ติดเชื้อมีโอกาสเสียชีวิตมากถึง 60%
แม้องค์การอนามัยโลก ( ฮู ) จะออกมายืนยันว่า เชื้อไวรัสเอช7 เอ็น9 แพร่ระบาดทางเดียวจากสัตว์ปีกสู่คน แต่ผู้คนจำนวนไม่น้อยกวั่นเกรงว่า เชื้ออาจกลายพันธุ์มาเป็นการแพร่ระบาดจากคนสู่คนในภายหลัง สอดคล้องกับสมมติฐานในรายงานของแลนเซ็ทอีกชิ้นหนึ่ง ที่ระบุว่า ไข้หวัดนกสายพันธุ์ใหม่อาจกลับมาแพร่ระบาดได้อีกครั้งในช่วงฤดูใบไม้ร่วง หากเชื้อไวรัสมีการปรับโครงสร้างทางพันธุกรรมตามสภาพแวดล้อม จนมีความรุนแรงคล้ายกับเชื้อไวรัสเอช5 เอ็น1 ที่มักแพร่ระบาดในช่วงปลายฤดูร้อนจนถึงต้นฤดูหนาว
ที่มา: http://www.dailynews.co.th
