ฝุ่น PM 2.5 กระตุ้นอาการเด็กป่วยโรคภูมิแพ้ เลือดกำเดาไหล ย้ำ! พ่อแม่ผู้ปกครองสังเกตลูกหายใจช่วงกลางคืน กรมการแพทย์เผยปัญหาฝุ่น อาจทำเด็กเป็นสมาธิสั้น ตั้งแต่ช่วงแม่ตั้งครรภ์รับฝุ่นที่มีสารเคมีอื่นๆ เข้าร่างกาย
ตามที่สังคมออนไลน์มีการแชร์ข้อมูลและภาพเด็กเลือดกำเดาไหล ขณะที่เพจ Drama-addict โพสต์ถึงเรื่องดังกล่าวถึงผลกระทบต่อสุขภาพที่เกิดขึ้น และมีคำภามจากผู้ปกครองเรื่องการหยุดเรียนด้วยนั้น
แนะวิธีหากเกิดเลือดกำเดาไหลช่วงPM2.5
ล่าสุดในเรื่องของผลกระทบด้านสุขภาพ และแนวทางป้องกัน เมื่อวันที่ 24 มกราคม ที่ศูนย์ข้อมูลข่าวสารด้านสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) นพ.ธนินทร์ เวชชาภินันท์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ ให้ข้อมูลเรื่องนี้ว่า กรณีพบเด็กได้รับผลกระทบจนเลือดกำเดาไหล ว่า ฝุ่นได้เข้าไปกระตุ้น โดยเฉพาะเด็กที่มีโรคประจำตัวภูมิแพ้ต่างๆ ก็ทำให้โรคกำเริบ และอาการรุนแรงได้ ประกอบกับช่วงนี้อากาศเย็น จะมีการป่วยไข้หวัด การติดเชื้อ RSV ซึ่งทำให้เยื่อบุโพรงจมูกอักเสบแตกเลือดกำเดาไหลได้ หรือบางครั้งสาเหตุเพราะเด็กมีการแคะ แกะ หรือจามแรงๆ ก็ทำให้เลือดกำเดาไหลได้เช่นกัน
ทั้งนี้ หากเกิดเลือดกำเดาไหล ขอให้ตั้งสติ ใช้นิ้วกดปีกจมูก 2 ข้าง ใช้น้ำแข็งประคบหน้าผาก แก้ม 2 ข้าง ซึ่งจะทำให้เส้นเลือดหดตัวเลือดหยุดไหลได้ แต่หากพบว่าออกมาเป็นลิ่มเลือด หรือเด็กมีภาวะหน้าซีด เป็นลม อาเจียนขอให้มาพบแพทย์ และอีกเรื่องที่ต้องระวัง คือช่วงนี้ยังพบว่า มีการป่วยไข้เลือดออกในบางพื้นที่ ดังนั้น หากพบว่ามีการการป่วยร่วมด้วย ปวดตัว ปวดท้อง รวมถึงคนที่กินยาละลายลิ่มเลือด ก็ให้รีบมาพบแพทย์เช่นกัน
ย้ำ! พ่อแม่ผู้ปกครองสังเกตเด็กหายใจช่วงกลางคืน
“อีกหนึ่งอาการ ที่พบคือ เด็กมักมีอาการหอบหืดช่วงกลางคืน ต้องเข้าห้องฉุกเฉินบ่อย แต่เนื่องจากเด็กค่อนข้างอดทนต่ออาการผิดปกติ จึงไม่ค่อยบอกผู้ปกครอง ขอให้ผู้ปกครองสังเกตอาการจมูกบาน หายใจเร็วกว่าปกติ หน้าอกยกกระเพื่อม หายใจทางหน้าท้อง บริเวณคอยุบ ไม่ต้องรอจนอาการแย่ลง ให้รีบพามาโรงพยาบาลได้เลย” นพ.ธนินทร์ กล่าว
ฝุ่นPM2.5 ก่อสมาธิสั้น
ขณะที่ นพ.ประวิทย์ เจตนชัย นายแพทย์เชี่ยวชาญระบบหายใจในเด็ก สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กล่าวว่า หากเด็กมีเลือดกำเดาไหลนานกว่า 30 นาที มีอาการซึม กระสับกระส่าย ให้รีบมาพบแพทย์ เพราะเสี่ยงช็อค รวมถึงกรณีอาเจียนเป็นเลือด มีจ้ำเลือด ให้รีบมาพบแพทย์ ทั้งนี้ ฝุ่น PM 2.5 ยังส่งผลกระทบทำให้เด็กสมาธิสั้นด้วย ซึ่งเกิดได้ตั้งแต่ที่หญิงตั้งครรภ์ได้รับฝุ่นเข้าสู่ร่างกายเลย เพราะสิ่งที่รับเข้าไปไม่ใช่แค่ฝุ่นอย่างเดียว แต่ยังมีสารเคมีอื่นๆ สารก่อมะเร็ง โลหะหนัก สิ่งเหล่านี้จะเข้าไปหลอดลม ถึงถุงลม เข้าไปยังเส้นเลือด เมื่อเลือดส่งไปเลี้ยงสมอง หัวใจ ปอด ไต ไปถึงที่ไหนก็จะพาสิ่งแปลกปลอมเข้าสู่รางกายตามไปด้วย ก่อให้เกิดการอักเสบ เด็กคลอดก่อนกำหนด ส่งผลต่อพัฒนาการ มีภาวะสมาธิสั้น ที่ผ่านมา ยังไม่มีรายงาน แต่มีรายงานในวารสารทางการแพทย์ในต่างประเทศ
(ข่าว : 5 จังหวัดจมฝุ่นPM 2.5 เกิน 3 วัน "เพชรบุรี" นำโด่ง 5 วัน ล่าสุดยังไม่ประกาศพื้นที่ควบคุม)
- 340 views