ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สธ.ชี้แจงหลักการการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น พ.ร.บ.การสาธารณสุข ราชการส่วนท้องถิ่นเป็นผู้บังคับใช้กฎหมาย ให้อำนาจแก่เจ้าพนักงานควบคุมดูแล คุ้มครองประชาชนด้านสุขลักษณะและการอนามัยสิ่งแวดล้อม

สืบเนื่องจากกรณีที่มีผู้แทนชมรมนักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อมไทยได้แสดงความเห็นผ่านสื่อสังคมออนไลน์ส่วนบุคคล เกี่ยวกับพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 ประเด็นหลักการกระจายอำนาจขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการบังคับใช้กฎหมาย และข้อเสนอต่อการปรับปรุงกฎหมาย 

เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม นพ.ธิติ แสวงธรรม รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลกฎหมายดังกล่าว ขอขี้แจงรายละเอียดที่เกี่ยวข้อง ดังนี้ พระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม เป็นกฎหมายที่มีหลักการและเจตนารมณ์ที่สำคัญในการคุ้มครองประชาชนด้านสุขลักษณะและการอนามัยสิ่งแวดล้อม โดยมีขอบเขตครอบคลุมทั้งกิจกรรมการกระทำ และกิจการประเภทต่าง ๆ ที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพอนามัยของประชาชน ตั้งแต่ระดับบุคคล ครัวเรือน ชุมชน ตลอดจนกิจการขนาดเล็กและขนาดใหญ่ อันได้แก่ หาบเร่ แผงลอย สถานที่จำหน่ายอาหาร สถานที่สะสมอาหาร ตลาด กิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ รวมทั้งการควบคุมการเลี้ยงหรือปล่อยสัตว์ 

ทั้งนี้ โดยยึดหลักการกระจายอำนาจให้ราชการส่วนท้องถิ่นเป็นผู้บังคับใช้กฎหมาย และให้อำนาจแก่เจ้าพนักงานท้องถิ่นในการควบคุมดูแล รวมถึงการออกคำสั่งให้ปรับปรุงแก้ไข การพิจารณาอนุญาตหรือไม่อนุญาต ตลอดจนการสั่งพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาต และการเปรียบเทียบคดี 

“กระทรวงสาธารณสุข มีบทบาทหน้าที่สำคัญในการส่งเสริมให้ประชาชนมีสุขภาพดี พร้อมทั้งพัฒนากฎหมายและแนวทางปฏิบัติตามพระราชบัญญัติการสาธารณสข พ.ศ. 2535 ตลอดจนให้คำปรึกษา ส่งเสริม และสนับสนุนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศในการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อคุ้มครองประชาชนด้านสุขลักษณะและการอนามัยสิ่งแวดล้อมอย่างสูงสุด" รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวและว่า

อย่างไรก็ตาม ได้มีการดำเนินการศึกษา และประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อทบทวนการบังคับใช้กฎหมาย ตรวจสอบความซ้ำซ้อน และวิเคราะห์ปัญหาอุปสรรคต่อการใช้กฎหมายอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำไปสู่การพัฒนา ปรับปรุง และแก้ไขกฎหมายให้มีความทันสมัย สอดคล้องกับเทคโนโลยี และสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน โดยมีเป้าหมายสูงสดคือ การบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุขอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อคุ้มครองสุขภาพของประชาชนได้อย่างสมบูรณ์ และยั่งยืนต่อไป