ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

เลขาธิการสปส.  แจงสาเหตุ “รพ.เอกชน” 2 แห่ง แจ้งถอนตัวออกจากประกันสังคมสิ้นปี  2567 ยืนยันไม่กระทบผู้ประกันตน พร้อมแนะวิธีเปลี่ยนสถานพยาบาล

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ในสังคมออนไลน์ มีการแชร์ภาพประกาศจากรพ.เอกชน 2 แห่ง รพ.ซีจีเอชสายไหม และรพ.กรุงเทพสุราษฎร์ธานี แจ้งถอนตัวออกจากการเป็นคู่สัญญากับสำนักงานประกันสังคม ภายในสิ้นปี 2567   

โดย โรงพยาบาลซีจีเอช สายไหม ออกประกาศ โรงพยาบาลซีจีเอช สายไหม ระบุว่า ขอแจ้งถอนตัวออกจากการเป็นคู่สัญญากับสำนักงานประกันสังคม โดยผู้ประกันตนยังสามารถใช้บริการกับ รพ.ซีจีเอช สายไหม ได้อย่างต่อเนื่องจนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 67 หรือสิ้นปีนี้ ขอแนะนำให้ผู้ประกันตน เริ่มพิจารณารพ.ใหม่ตั้งแต่บัดนี้ เพื่อสามารถย้ายสิทธิได้ตั้งแต่เนิ่นๆ ทั้งนี้ ผู้ประกันตนสามารถติดต่อขอรับสรุปประวัติการรักษาของท่านได้ที่แผนกเวชระเบียนชั้น 1 เปลี่ยนสถานพยาบาลได้ระหว่างวันที่ 16 ธันวาคม 2567 ถึง 31 มีนาคม 2568

 

ขณะที่ ประกาศ โรงพยาบาลกรุงเทพสุราษฎร์ ระบุว่า ขอแจ้งถอนตัวออกจากการเป็นคู่สัญญา กับสำนักงานประกันสังคม โดยผู้ประกันตนยังสามารถใช้บริการกับ รพ.กรุงเทพสุราษฎร์ ได้อย่างต่อเนื่องจนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2567 หรือสิ้นปีนี้ ขอแนะนำให้ผู้ประกันตน เริ่มพิจารณารพ.ใหม่ตั้งแต่บัดนี้ เพื่อสามารถวางแผนในการย้ายสิทธิ ทั้งนี้ ผู้ประกันตนสามารถดำเนินการขอประวัติการรักษาของท่านได้ที่ แผนกเวชระเบียน รพ.กรุงเทพสุราษฎร์

 

 

ด้าน นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม(สปส.)  กล่าวว่า  กรณีของรพ.กรุงเทพสุราษฎร์ธานี เนื่องจากรพ.มีขนาดเล็ก เมื่อเปิดรับผู้ประกันตนปรากฎว่าผู้ประกันตนมาเลือกใช้สิทธิน้อย ซึ่งส่วนใหญ่จะเลือกไปรับบริการที่รพ.สุราษฎร์ธานีที่เป็นรพ.ศูนย์ รพ.ขนาดใหญ่มากกว่า ดังนั้น เมื่อมีผู้ประกันตนเลือกรับสิทธิที่รพ.น้อยจึงขอแจ้งออกจากประกันสังคม อีกทั้ง การเป็นรพ.เล็กในการให้บริการคงจะยาก ทั้งนี้จ.สุราษฎร์ธานีมีผู้ประกันตนจำนวนไม่มาก

ส่วนรพ.ซีจีเอช สายไหมนั้น เนื่องจากเครือรพ.ดังกล่าวมีรพ.หลายสาขา จึงต้องการให้ผู้ประกันตนเข้าไปรับบริการที่รพ.ซีจีเอช ลำลูกกา ทำให้แจ้งออกจากประกันสังคม โดยที่นี่มีผู้ประกันตนราว 90,000 คน  ซึ่งไม่มีปัญหา เพราะรพ.รัฐในย่านนั้นรองรับได้

“ยืนยันว่าการแจ้งออกจากประกันสังคมของรพ.ทั้ง 2  แห่งไม่กระทบกับผู้ประกันตน โดยหากเป็นกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉินสามารถเข้ารับบริการได้ ตามสิทธิUCEP และกองทุนเงินทดแทน ประกันสังคมก็สามารถใช้ได้  โดยหลักแล้วผู้ประกันตนจะเลือกรพ.ที่ใกล้ที่สุด เพราะเมื่อเจ็บป่วยเกินศักยภาพรพ.ก็จะส่งต่อ ซึ่งปัจจุบันประกันสังคมจ่ายเงินค่าบริการทางการแพทย์ดีที่สุด”นายบุญสงค์กล่าว 

 

อนึ่ง เปลี่ยนสถานพยาบาลได้ 4 ช่องทาง คือ

1. ยื่นแบบการเลือกสถานพยาบาลในการรับบริการทางการแพทย์ (สปส. 9-02)

2. ทำรายการผ่าน www.sso.go.th

3. ทำรายการผ่าน Mobile Applications

4. ทำรายการผ่าน Line Official  sso โดยเพิ่มเพื่อน @ssothai