ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

"หมอเกื้อเกียรติ" ปธ.คณะทำงานฯ เผย หลังสปสช.ปรับนโยบายล้างไตทุกวิธีฟรี! พบ ผู้ป่วยเสียชีวิตเพิ่มสูงขึ้น เหตุบุคลากร-สถานที่-อุปกรณ์ไม่เพียงพอ ทั้งนี้ รร.แพทย์ พยาบาล นักวิชาการ หนุนงบประมาณ คาดได้ข้อเสนอต่อ สปสช.ภายในเดือนกันยายนนี้

เมื่อวันที่ 4 ก.ค. 2567 ศ.นพ.เกื้อเกียรติ ประดิษฐ์พรศิลป์ อายุรแพทย์โรคไต คณะแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งได้รับการแต่งตั้งจาก น.พ. จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการ สปสช. ให้เป็นประธานคณะทำงานเพื่อทบทวนผลกระทบจากนโยบายการล้างไตใหม่ เปิดเผยว่า คณะทำงานได้ประชุมร่วมกันไปแล้วสองครั้งได้ข้อสรุปว่านโยบายใหม่ทำให้มีผู้ป่วยล้างไตรายใหม่ด้วยวิธีฟอกเลือดเพิ่มขึ้นจากปีละ 4,000 ราย เป็นปีละ 28,000 รายในปี พ.ศ. 2565 และปีละ 20,000 รายในปี พ.ศ.2566 ขณะที่ผู้ป่วยรายใหม่ที่เลือกล้างไตทางช่องท้องรายใหม่ลดลงจากปีละ 8,000 ราย เหลือปีละ 3,000 ราย ในรอบสองปีที่ผ่านมา

เห็นได้ว่าจำนวนผู้ป่วยโดยรวมที่เข้าสู่ระบบการล้างไตทั้งสองวิธีของสปสช.เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากซึ่งคงไม่ใช่เฉพาะแค่การเข้าถึงการล้างไตของผู้ป่วยที่ไม่ต้องการล้างไตทางช่องท้องเพียงอย่างเดียว  แต่น่าจะเกิดขึ้นจากหลายสาเหตุทั้งอาจจากแรงจูงใจของแพทย์และคนไข้ที่เลือกการฟอกเลือดที่เร็วมากขึ้นผู้ป่วยที่สมควรได้รับการรักษาแบบประคับประคองอาจได้รับการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมเพิ่มขึ้น และมาตรการชะลอไตเสื่อมในประเทศไทยยังไม่เข้มข้นมากพอที่จะส่งผลให้จำนวนผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังระยะสุดท้ายลดลง

ประเด็นที่คณะทำงานกังวลมากที่สุดคือ ผู้ป่วยล้างไตด้วยวิธีฟอกเลือดมีอัตราการเสียชีวิตเพิ่มสูงขึ้นเป็นอย่างมากหลังเปลี่ยนนโยบาย อัตราการเสียชีวิตโดยรวมเพิ่มจาก 250 รายต่อผู้ป่วย 1,000 รายต่อปี เป็น 360 รายต่อผู้ป่วย 1,000 รายต่อปี และอัตราการเสียชีวิต ภายใน 90 วันหลังเริ่มการฟอกเลือดที่เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 4 เป็นร้อยละ 27 ของผู้ป่วยฟอกเลือดรายใหม่ ศ.นพ.เกื้อเกียรติ กล่าว

ซึ่งอาจอธิบายได้ด้วยข้อจำกัดในการเข้าไม่ถึงการเตรียมเส้นเลือดเพื่อฟอกเลือดที่ไม่สามารถเพิ่มขีดความสามารถในการผ่าตัดให้เพียงพอกับความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในเวลาที่จำกัด และคุณภาพของหน่วยไตเทียมที่มีบุคลากรสถานที่ และอุปกรณ์ไม่เพียงพอในด้านงบประมาณ

ศ.นพ.เกื้อเกียรติ เผยว่า สปสช.รายงานว่า มีการเพิ่มขึ้นของงบค่าบริการผู้ป่วยไตวายเรื้อรังจาก 9,000 ล้านบาทต่อปี ก่อนเปลี่ยนนโยบายเป็น 13,000 ล้านบาทต่อปี ในปีที่ผ่านมาทำให้สัดส่วนของงบประมาณระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติสำหรับดูแลผู้ป่วยกลุ่มนี้เพิ่มจากร้อยละ 3.6 เมื่อ 11 ปีที่แล้ว เป็นร้อยละ 7.7. ในปีที่ผ่านมา ซึ่งดูแลผู้ป่วยประมาณ 60,000 คน จากผู้ประกันตนในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติทั้งหมด 47 ล้านคน

คณะทำงานชุดนี้จะเร่งพัฒนาข้อเสนอในการปรับนโยบายล้างไตเพื่อเพิ่มคุณภาพบริการและสร้างความมั่นคงให้แก่ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติโดยการพัฒนาข้อเสนอแนะนี้จะวางอยู่บนหลักฐานเชิงประจักษ์และการมีส่วนร่วมของทุกฝ่าย ศ.นพ.เกื้อเกียรติ กล่าว

ทั้งนี้ องค์ประกอบคณะทำงานประกอบด้วยแพทย์ในกระทรวงสาธารณสุขและโรงเรียนแพทย์หลายแห่ง พยาบาล นักวิชาการและตัวแทนผู้ป่วย โดยสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุขได้ร่วมสนับสนุนงบประมาณในการทำงานของคณะทำงาน คาดว่าจะได้ข้อเสนอแก่คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติภายในเดือนกันยายนนี้

เรื่องที่เกี่ยวข้อง