รมช.สันติ ติดตามความพร้อมการเปิดให้บริการอาคารหลวงปู่บุญทัน ฐิตสีโล โรงพยาบาลบึงสามพัน จังหวัดเพชรบูรณ์ และเป็นประธานทอดผ้าป่าสามัคคี สมทบทุนสร้างโดมต่อเชื่อมระหว่างอาคารและตกแต่งภายใน ก่อนเปิดให้บริการสุขภาพเต็มรูปแบบด้วยระบบดิจิทัล 5 ธันวาคมนี้

วันนี้ (8 ตุลาคม 2566) ที่โรงพยาบาลบึงสามพัน จังหวัดเพชรบูรณ์ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ติดตามความพร้อมการเปิดให้บริการของอาคารหลวงปู่บุญทัน ฐิตสีโล และเป็นประธานทอดผ้าป่าสามัคคี สมทบทุนสร้างโดมต่อเชื่อมอาคารใหม่กับอาคารเดิม และตกแต่งภายในอาคาร ก่อนเปิดให้บริการด้วยระบบดิจิทัล ในวันที่ 5 ธันวาคม 2566 โดยมี หลวงปู่บุญทัน ฐิตสีโล ประธานอุปถัมภ์การสร้างอาคาร 

นายกฤษณ์ คงเมือง ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ นายแพทย์นราพงค์ ธีรอัครวิภาสิภาส นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเพชรบูรณ์ นายแพทย์ธีรพจน์ ฟักน้อย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบึงสามพัน นางวันเพ็ญ พร้อมพัฒน์ ส.ส.เพชรบูรณ์ คณะผู้บริหารและหัวหน้าส่วนราชการ ตลอดจนประชาชนเข้าร่วมพิธี

นายสันติ กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข มีนโยบายยกระดับบริการสุขภาพ เพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชน เพิ่มการเข้าถึงบริการรักษาพยาบาล พร้อมทั้งนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในระบบบริการ อำนวยความสะดวกให้กับประชาชน โดยโรงพยาบาลบึงสามพันได้รับความเมตตาจาก หลวงปู่บุญทัน ฐิตสีโล ที่มีดำริในการทำบุญหาปัจจัยสมทบทุนสร้างอาคาร 7 ชั้น (อาคารหลวงปู่บุญทัน ฐิตสีโล) เพื่อขยายพื้นที่การให้บริการรองรับประชาชนอำเภอบึงสามพัน จำนวน 74,240 คน และประชากรแฝงอีก 10,000 คน ที่มีความต้องการรับบริการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันให้บริการผู้ป่วยนอกมากกว่า 20,000 ครั้งต่อปี และให้บริการผู้ป่วยใน มากกว่า 800 รายต่อปี 

นายสันติ กล่าวต่อว่า อาคารใหม่ 7 ชั้น ก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อเดือนเมษายน 2566 ที่ผ่านมา โดยได้รับเงินสนับสนุนจากการจัดงานทำบุญของหลวงปู่บุญทัน จำนวน 109 ล้านบาท และในวันนี้ได้จัดทอดผ้าป่าสามัคคี สมทบทุนสร้างโดมต่อเชื่อมอาคารใหม่กับอาคารเก่าที่มีความต่างระดับ เพื่อให้ประชาชนใช้งานได้สะดวก รวมถึงตกแต่งภายในอาคาร ชั้นที่ 1 หน่วยอุบัติเหตุฉุกเฉินและห้อง X-Ray และชั้นที่ 2 หน่วยงานผู้ป่วยนอกและงานชันสูตร เพื่อให้พร้อมเปิดให้บริการเต็มรูปแบบ ในวันที่ 5 ธันวาคม 2566 นี้ เบื้องต้น ได้ติดตั้งอุปกรณ์การแพทย์และเตียงไฟฟ้า จำนวน 80 เตียง และแผงโซล่าเซลล์ ขนาด 100 กิโลวัตต์ ช่วยประหยัดพลังงานและลดภาวะโลกร้อน รวมทั้งเตรียมนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้บริหารจัดการระบบเป็น Smart Hospital และเตรียมวางระบบ CT Scan ช่วยลดการส่งต่อผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลแม่ข่าย ด้วย

 

 

*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org