เรื่องจริงของกระเทียม แม้จะใช้หมักผมเพื่อรักษาผมร่วงไม่ได้ แต่มีประโยชน์อื่นที่ไม่ควรมองข้าม
ตามที่ได้มีการเผยแพร่ข้อมูล เรื่อง หมักผมด้วยกระเทียม เพื่อรักษาผมร่วง ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุข พบว่าข้อมูลดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ โดยการแชร์สูตรหมักผมด้วยกระเทียม ระบุสรรพคุณว่าช่วยรักษาผมร่วง ทำให้ผมแข็งแรง ได้ตรวจสอบข้อมูลแล้วว่าไม่เป็นความจริง เนื่องจากยังไม่มีเอกสารทางวิชาการหรืองานวิจัยที่น่าเชื่อถือ สำหรับนำมายืนยันว่ากระเทียมสามารถรักษาผมร่วงได้จริง โรคผมร่วง หรือผมบางเกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเกิดจากกรรมพันธุ์ผมบาง เส้นผมเปราะแล้วหัก ผมไม่ขึ้น อาจเกิดจากโรคประจำตัว การได้รับยาหรือสารเคมีบางประเภท การได้รับเคมีบำบัด การฉายรังสี ก็สามารถทำให้ผมร่วงได้ และกระเทียมนั้นมีสรรพคุณตามข้อมูลสมุนไพรที่ใช้ในงานสาธารณสุขมูลฐาน คือ แก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ แน่น จุกเสียด รักษาอาการกลากเกลื้อน จึงไม่เกี่ยวข้องกับการรักษาผมร่วง
ข้อมูลจากกรมการแพทย์ โดยสถาบันโรคผิวหนัง เปิดเผยว่า โดยปกติแล้วเส้นผมของคนเรามีประมาณ 80,000 ถึง 1,200,000 เส้น งอกยาวขึ้นวันละประมาณ 0.35 มิลลิเมตรและมีอายุนาน 2 ถึง 6 ปี โดยปกติคนเราจะมีผมร่วงเป็นประจำทุกวัน แต่ไม่เกินวันละ 30 ถึง 50 เส้น สาเหตุของภาวะผมร่วง ได้แก่ 1. ผมร่วงจากกรรรมพันธุ์ สามารถพบได้ทั้งชายและหญิง มักพบในเพศชายมากกว่า เห็นเป็นเส้นขนอ่อน ๆ ทำให้ผมบริเวณนั้นดูบางลง ส่วนมากจะเป็นบริเวณกลางศีรษะและหน้าผาก 2. ผมผลัด เกิดผมร่วงเนื่องจากผมหยุดเจริญชั่วคราวจากการเจ็บป่วยหรือความเครียดหรือขาดสารอาหาร เช่น เหล็กหรือวิตามินดี ทำให้วงจรชีวิตเส้นผมที่กำลังเจริญมีการหยุดเจริญและหลุดร่วงมากกว่าปกติ 3. ผมร่วงเป็นหย่อม เกิดขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด จะมีอาการผมร่วงเฉพาะที่ บริเวณผมที่ร่วงจะมีลักษณะกลมหรือรี ขอบเขตชัดเจน ตรงกลางไม่มีเส้นผมหนังศีรษะในบริเวณนั้น ไม่แดง ไม่เจ็บ ไม่คัน ไม่เป็นสะเก็ด หรือเป็นขุย 4. ผมร่วงจากการถอน พบได้บ่อยในผู้ใหญ่และเด็กที่มีความเครียดจากสาเหตุต่าง ๆ ผู้ป่วยจะดึงผมตัวเองจนผมแหว่ง หนังศีรษะบริเวณที่ผมร่วงจะไม่มีผื่นคัน หรือเป็นขุย และจะพบเส้นผม ที่เป็นตอสั้น ๆ 5. ผมร่วงจากเชื้อรา โรคเชื้อราที่ศีรษะ กลากที่ศีรษะ อาจพบได้บ่อยในเด็ก เกิดจากการติดเชื้อราโรคนี้ทำให้ผมร่วงเป็นหย่อม ๆ เป็นผื่นแดงคัน และเป็นขุย หรือก้อนอักเสบคล้ายฝี อาจจะมีโรคเชื้อรา (กลาก) ร่วมด้วยหรือไม่ก็ได้ 6. ผมร่วงจากการทำผม การม้วนผม ย้อมสีผม ดัดผม เป่าผมหรือวิธีอื่น ๆ อาจทำให้มีอาการผมร่วงได้จากการที่มีหนังศีรษะอักเสบ หรือเส้นผมเปราะหัก 7. ผมร่วงจากโรคอื่น ๆ ผู้ป่วยที่มีโรคบางอย่าง เช่น โรคเอสแอลอี ก็อาจมีอาการผมร่วง ผมบาง ร่วมกับอาการไข้เรื้อรัง ปวดตามข้อ มีผื่นปีกผีเสื้อขึ้นที่หน้า โรคผมร่วงบางอย่างอาจมีการอักเสบที่บริเวณสเต็มเซลล์ทำให้เกิดผมร่วงแบบเป็นแผลเป็นซึ่งแผลเป็นจะไม่หาย
สำหรับการปฏิบัติตัวของผู้ป่วยที่มีปัญหาผมร่วง 1. สังเกตอาการตนเองว่ามีภาวะผมร่วงผิดปกติหรือไม่ เช่น ผมร่วงมากกว่าวันละ 100 เส้น/วัน ถ้ามีอาการผมร่วงผิดปกติ ควรพบแพทย์เพื่อให้การวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้องตามมาตรฐาน 2. รักษาความสะอาดของเส้นผมและหนังศีรษะอย่างสม่ำเสมอ 3. หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีหรือความร้อนกับหนังศีรษะมากจนเกินไป 4. ในผู้ที่มีการดัดผมหรือย้อมสีผม ควรมีการบำรุงเส้นผมด้วยครีมนวดผมเพื่อไม่ให้ผมพันกันเกิดผมขาดง่าย 5. ถ้ารู้สึกมีอาการคัน ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรักษา หลีกเลี่ยงการดึงหรือถอนผมเล่น 6. ไม่ควรซื้อยารักษาเองก่อนพบแพทย์เพื่อรับคำวินิจฉัยที่ถูกต้องก่อนรักษา ในรายที่เพิ่งมีอาการผมร่วงที่เป็นมากหรือผมร่วงแบบเป็นแผลเป็น ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง
*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org
- 934 views