อย่าเชื่อ "ปลากระป๋อง" ต้องผ่านความร้อนทุกครั้งก่อนรับประทาน 

จากกรณีข้อมูลเผยแพร่ เรื่อง ปลากระป๋องต้องแปรสภาพผ่านความร้อนก่อนรับประทานเพราะเป็นอันตราย ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุข พบว่า เป็นข้อมูลเท็จ

ข้อมูลในโลกออนไลน์ เผยแพร่คำเตือนว่า ปลากระป๋องทุกยี่ห้อ เปิดแล้วจะรับประทานเลยไม่ได้ ต้องเอาไปแปรสภาพให้ผ่านความร้อนทุกครั้งก่อนรับประทาน เพราะเป็นอันตรายนั้น ทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุข ชี้แจงว่า ปลากระป๋องเป็นผลิตภัณฑ์แปรรูปจากปลาปรุงสุกบรรจุในภาชนะที่ปิดสนิท ผลิตโดยใช้ความร้อนสูงประมาณ 118 – 122 องศาเซลเซียส นาน 60 – 70 นาที เพื่อทำลายจุลินทรีย์อันตราย ทำให้เก็บรักษาไว้ได้นานโดยไม่เน่าเสียแม้ไม่แช่ตู้เย็น จึงสามารถบริโภคปลากระป๋องได้ โดยไม่ต้องนำมาผ่านความร้อนซ้ำ และหากผู้บริโภคพบเห็นผลิตภัณฑ์ปลากระป๋องที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือไม่ได้รับความปลอดภัยจากการบริโภค ขอให้ร้องเรียนมาได้ที่สายด่วน อย.

สำหรับการเลือกซื้อปลากระป๋องให้ปลอดภัย กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข แนะนำว่า ควรเลือกซื้อกระป๋องที่อยู่ในสภาพดี ไม่บุบ โดยเฉพาะตะเข็บหรือรอยต่อของกระป๋องต้องเรียบ ไม่เป็นสนิม ไม่โป่งนูน และให้ดูฉลากสินค้าที่ผ่านการตรวจรับรองและมีเลขสารบบอาหารหรือตัวเลขหลังเครื่องหมาย อย. พร้อมทั้งสังเกตวัน เดือน ปีที่ผลิต และวันหมดอายุ ที่สำคัญก่อนบริโภคทุกครั้งควรทำความสะอาดกระป๋อง 

ปลากระป๋องส่วนใหญ่แล้ว มักจะเลือกใช้ปลาซาร์ดีน ปลาแมคเคอเรล และปลาทูน่า มักบรรจุในน้ำมันหรือน้ำเกลือ อีกทั้งยังมีชนิดที่ปรุงรสในซอสมะเขือเทศ หรือปรุงรสชาติเป็นสูตรต่าง ๆ เพิ่มรสให้รับประทานง่าย และไม่น่าเบื่อ ประโยชน์ที่สำคัญ เช่น โปรตีน แคลเซียม วิตามินดี ยังมีสารอาหารชนิดอื่นอีก อย่างปลาทะเลจะมีโอเมก้า-3 อยู่ด้วย

แม้ว่าปลากระป๋องจะสามารถรับประทานได้ง่าย แค่เปิดกระป๋องก็กินได้ทันที หรือนำไปประกอบอาหารเป็นเมนูต่าง ๆ ก็ได้หลายเมนู เช่น ต้มยำปลากระป๋อง ยำปลากระป๋อง หรือข้าวผัดปลากระป๋อง แต่นอกจากประโยชน์แล้ว ยังต้องระวังปริมาณโซเดียมในปลากระป๋อง โดยปลากระป๋องขนาด 85 กรัม 1 กระป๋อง มีโซเดียมสูงถึง 300 มิลลิกรัม โดยทั่วไปร่างกายต้องการโซเดียมประมาณ 1,500 มิลลิกรัมต่อวัน ซึ่งโซเดียมเป็นแร่ธาตุที่มีความจำเป็นต่อร่างกาย ช่วยรักษาความสมดุลของน้ำในร่างกายและความดันโลหิต

อย่างไรก็ตาม ร่างกายไม่ควรได้รับโซเดียมเกิน 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน หรือเกลือประมาณ 1 ช้อนชา หากบริโภคอาหารที่มีโซเดียมมากเกินไปเป็นประจำ จะเสี่ยงต่อโรคร้ายหลายชนิด เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคไต โรคหัวใจและหลอดเลือด จึงต้องระมัดระวังการรับประทานปลากระป๋อง รวมถึงการใส่เครื่องปรุงรสในแต่ละมื้ออาหาร

*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org