ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สธ. ย้ำแม้โควิดเป็นโรคติดต่อเฝ้าระวัง แต่ยังไม่ประกาศถอดหน้ากากอนามัยทั่วประเทศ ทุกอย่างอยู่ที่การประเมินตามสถานการณ์ ตรงไหนควรใส่ ตรงไหนควรถอด ขณะที่วัคซีนเข็มกระตุ้นปี 66 กรมควบคุมโรคจะหารือกับคณะกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกัน อาจมีวัคซีนรวม หรือในอนาคตอาจฉีดเฉพาะกลุ่มเสี่ยง

เมื่อวันที่ 7 ก.ย. ที่กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีการปรับโควิดจากโรคติดต่ออันตราย เป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวังตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2565 ต้องมีการปรับมาตรการสวมหรือถอดหน้ากากอนามัยอีกหรือไม่ ว่า 1 ต.ค.ประเมินสถานการณ์ใส่ไว้ไม่เสียหาย ถ้าบอกให้ถอดก็ดรามาอีก  ขอให้ประเมินตัวเอง ใส่ไว้ได้ก็ดี อยู่ตรงไหนควรใส่ไม่ใส่ วิ่งในสวนสาธารณะก็ไม่ต้องใส่ อากาศถ่ายเทสะดวก เว้นระยะห่าง ต้องประเมินกันเอง อย่างเห็นคนเยอะก็ใส่ เพื่อนมาหาห้องทำงานรู้ว่าปลอดภัย เสี่ยงน้อยลง ตนเองก็ถอด ขึ้นอยู่กับสถานการณ์

ผู้สื่อข่าวถามว่า ปีหน้าต้องมีการกระตุ้นวัคซีนอีกหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า  ทางกรมควบคุมโรคจะต้องหารือกับคณะกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกัน ถ้าบอกว่าฉีด ก็ควรฉีด ซึ่งรัฐบาลยังพร้อมให้การสนับสนุนเรื่องวัคซีน ส่วนแผนของปีหน้านั้น ก็ต้องมอนิเตอร์ว่า หลังจากประกาศโรคติดต่อเฝ้าระวังแล้ว สถานการณ์กลายเป็นหวัดชนิดหนึ่งหรือไม่ และในอนาคตจะมีวัคซีนรวมหรือไม่ ก็ต้องพิจารณาตามสถานการณ์ ซึ่งก็อาจลดจำนวนผู้ที่ต้องฉีดวัคซีน อาจฉีดตามกลุ่มเสี่ยง แต่ตอนนี้วัคซีนยังมีพอ   
 

*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org