ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กลุ่มคอมโควิด ประกอบด้วย 8 องค์กรเครือข่ายประชาสังคม จี้ "อนุทิน" ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีนายศุภชัย  ทำให้สังคมสับสนและทำให้การดำเนินงานตรวจเชิงรุกถูกทำให้เสียหาย ผิดจากเจตนาในการระดมกำลังเพื่อช่วยลดปัญหาวิกฤตโควิด

 

จากกรณีที่นายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนสมาชิกพรรค ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคภูมิใจไทย ได้ดำเนินการร้องเรียนต่อประธานกรรมาธิการสาธารณสุข โดยกล่าวหาว่า นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ในฐานะประธานชมรมแพทย์ชนบท และดูแลเพจแพทย์ชนบท ได้เผยแพร่เนื้อหากรณีมีการแทรกแซงการโยกย้ายตำแหน่งในกระทรวงสาธารณสุข และมีการกักตัวผู้ป่วย (Home Isolation) ในช่วงที่มีการตรวจเชิงรุกในกทม.นั้น

กลุ่มกลุ่มคอมโควิด ได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้รองนายกรัฐมนตรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล ได้ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงดังกล่าวในฐานะ รมว.กระทรวงสาธารณสุข และประธานคณะกรรมการ สปสช. ผู้ซึ่งรับรู้กระบวนการในช่วงตรวจเชิงรุกมาตลอด รวมทั้งเรียกร้องให้ นายศุภชัย ใจสมุทร ได้ออกมาชี้แจงและขอโทษต่อการกล่าวหาบิดเบือนและสร้างความเข้าใจผิด ทำให้สังคมสับสนและทำให้การดำเนินงานตรวจเชิงรุกถูกทำให้เสียหาย ผิดจากเจตนาในการระดมกำลังเพื่อช่วยลดปัญหาวิกฤตโควิดในช่วงนั้น และขอเรียกร้องให้ประชาชนในกทม.ที่ผ่านวิกฤตครั้งนั้นมาได้ ออกมาร่วมกันส่งเสียงต่อพรรคภูมิใจไทย ให้มีการชี้แจงและแก้ไขข้อกล่าวหาดังกล่าว

สำหรับแถลงการณ์กลุ่มคอมโควิด Com-Covid กรณีการร้องเรียนกล่าวหานพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ของนายศุภชัย ใจสมุทร พรรคภูมิใจไทย

ใจความดังนี้ ​กรณีที่นายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนสมาชิกพรรค ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคภูมิใจไทย ได้ดำเนินการร้องเรียนต่อประธานกรรมาธิการสาธารณสุข โดยกล่าวหาว่า นพ.สุภัทร ในฐานะประธานชมรมแพทย์ชนบท และดูแลเพจแพทย์ชนบท ได้เผยแพร่เนื้อหากรณีมีการแทรกแซงการโยกย้ายตำแหน่งในกระทรวงสาธารณสุข และมีการกักตัวผู้ป่วย (Home Isolation) ในช่วงที่มีการตรวจเชิงรุกในกทม.

 

​ช่วงวิกฤตโควิดระบาดทั่วกรุงเทพ ประชาชนเกิดความหวาดกลัว ไปรับบริการจนเกิดปัญหาคนล้นโรงพยาบาล และไม่มีช่องทางการตรวจคัดกรอง วิกฤตเตียงเต็มและมีผู้เสียชีวิตในบ้านพัก มีคนถูกไล่ออกจากบ้าน จากชุมชน เพียงเพราะติดเชื้อโควิด เกิดความรังเกียจไปทั่วกทม. สถานการณ์ดังกล่าวสร้างความตื่นตระหนกและสับสน จนนำมาสู่ความพยายามรวมตัวกันเองของภาคประชาสังคม ที่ต้องการเข้ามาช่วยแบ่งเบาภาวะวิกฤต จนนำมาสู่การร่วมมือระหว่างกลุ่มคอมโควิด และชมรมแพทย์ชนบทที่เดินทางมาจากทั่วประเทศ เพื่อมาตรวจคัดกรองและจ่ายยารักษาโควิด(ฟาวิพิราเวียร์) ให้แก่ประชาชน โดยมีการหารือร่วมกับกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุขและสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) มาโดยตลอด เพื่อหาทางลดความแออัดในโรงพยาบาล ด้วยการออกแบบระบบ Home Isolation ที่ได้รับการยอมรับจากกระทรวงสาธารณสุข และระบบหลักประกันสุขภาพ ให้เป็นบริการที่บ้านโดยหน่วยบริการสามารถเบิกจ่ายได้

 

​การกล่าวหาว่ามีการกักตัวผู้ป่วยในช่วงดำเนินการตรวจเชิงรุก และกล่าวหาว่าการจัดบริการ Home Isolation เป็นการกักตัวผู้ป่วยตามที่ นายศุภชัย ใจสมุทร กล่าวหานั้น เป็นการบิดเบือน สร้างความเข้าใจผิดต่อระบบ Home Isolation และเป็นการกล่าวเกินจริง เพราะในช่วงการตรวจเชิงรุกนั้น ทั้งกลุ่มคอมโควิด และกลุ่มแพทย์ชนบทที่มาให้บริการประชาชน ไม่ได้มีการกักตัวผู้ป่วย ระบบการตรวจเชิงรุกทำเพียงการเปิดบริการตรวจ ATK และ ตรวจยืนยันผล PCR ตามเวลาที่กำหนด และเมื่อพบว่ามีผู้ติดเชื้อโควิด ได้ให้บริการปรึกษาด้านการดูแลตัวเอง เพื่อจัดการกับอาการของโรค และมีการจ่ายยารักษาตามเกณฑ์ทางการแพทย์อย่างมืออาชีพ และได้รับเสียงชื่นชมจากประชาชนที่มาขอรับบริการจำนวนมาก

 

​กลุ่มคอมโควิด ขอเรียกร้องให้รองนายกรัฐมนตรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล ได้ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงดังกล่าวในฐานะ รมว.กระทรวงสาธารณสุข และประธานคณะกรรมการ สปสช. ผู้ซึ่งรับรู้กระบวนการในช่วงตรวจเชิงรุกมาตลอด รวมทั้งเรียกร้องให้ นายศุภชัย ใจสมุทร ได้ออกมาชี้แจงและขอโทษต่อการกล่าวหาบิดเบือนและสร้างความเข้าใจผิด ทำให้สังคมสับสนและทำให้การดำเนินงานตรวจเชิงรุกถูกทำให้เสียหาย ผิดจากเจตนาในการระดมกำลังเพื่อช่วยลดปัญหาวิกฤตโควิดในช่วงนั้น และขอเรียกร้องให้ประชาชนในกทม.ที่ผ่านวิกฤตครั้งนั้นมาได้ ออกมาร่วมกันส่งเสียง*ต่อพรรคภูมิใจไทย ให้มีการชี้แจงและแก้ไขข้อกล่าวหาดังกล่าวด้วย

ทั้งนี้ กลุ่มคอมโควิด ประกอบไปด้วย 

1. มูลนิธิเข้าถึงเอดส์

2. มูลนิธิพัฒนาที่อยู่อาศัย

3. มูลนิธิสถาบันเพื่อการวิจัยและนวัตกรรมด้านเอชไอวี

4. เครือข่ายสลัมสี่ภาค

5. เครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ ประเทศไทย

6. มูลนิธิศูนย์คุ้มครองสิทธิด้านเอดส์

7. มูลนิธิเพื่อนพนักงานบริการ

8. เครือข่าย COVID-19 Team North