สปสช.ดึง “รพ.เอกชนนอกระบบบัตรทอง” ทั่วประเทศ ร่วมบริการผู้ติดเชื้อโควิด-19 พร้อมจัดประชุมผ่านระบบออนไลน์ เปิดหลักเกณฑ์ใหม่การดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั้งบริการ “UCEP โควิด-19” รักษาผู้ป่วยสีเหลือง/แดง และระบบบริการผู้ป่วยสีเขียว และชี้แจงอัตราค่าบริการโควิด-19 เริ่มตั้งแต่ 16 มี.ค. นี้เป็นต้นไป

เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2565 นพ.การุณย์ คุณติรานนท์ ที่ปรึกษาสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เป็นประธานการประชุมเพื่อหารือแนวทางการเบิกจ่ายกรณีผู้ป่วยโควิด-19 สีเขียว สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และกรณียกเลิกยูเซป โควิด (UCEP โควิด-19) โดยมี นพ.เฉลิม หาญพาณิชย์ นายกสมาคมโรงพยาบาลเอกชน พร้อมด้วยตัวแทนผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ของสถานพยาบาลเอกชนทั่วประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมกว่า 800 คน 

นพ.การุณย์ กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ที่ผ่านมา ด้วยความร่วมมือจากโรงพยาบาลเอกชนในการร่วมดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ทำให้ประเทศไทยผ่านพ้นวิกฤติสถานการณ์นี้มาได้ด้วยดี แต่ด้วยเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน แม้ว่าจะไม่รุนแรงและเตรียมปรับเป็นโรคประจำถิ่น แต่ก็ทำให้ขณะนี้เกิดการแพร่ระบาดเป็นวงกว้างที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

ประกอบกับที่ผ่านมาได้มีการยกเลิกบริการยูเซปโควิด (UCEP โควิด-19) และปรับเปลี่ยนสู่บริการยูเซปพลัส (UCEP Plus) ตามที่มติ ครม.เห็นชอบตามข้อเสนอของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2565 ที่ได้แยกผู้ป่วยโควิด-19 ที่ไม่มีอาการหรือมีอาการเล็กน้อยที่เป็นสีเขียวออกจากสิทธิประโยชน์ยูเซปพลัส โดยให้คงไว้แต่ผู้ป่วยสีเหลืองและแดง จึงนำมาสู่การประชุมในวันนี้เพื่อชี้แจงหลักเกณฑ์การจ่ายค่าบริการโควิด-19 ใหม่ให้เกิดชัดเจน เพื่อให้สถานพยาบาลเอกชนที่ไม่ใช่หน่วยบริการในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเข้าร่วมดูแลผู้ป่วยโควิดให้เข้าถึงบริการอย่างครอบคลุมและทั่วถึง 

ทั้งนี้ การให้บริการผู้ป่วยโควิด-19 จะแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มผู้ป่วยสีเหลืองและแดง เป็นผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต ตามกฎหมายว่าด้วยการแพทย์ฉุกเฉินเฉพาะกรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โรคโควิด-19 ซึ่งการประเมินผู้ป่วยจะเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของสถาบันการแพทย์ฉุกเฉิน (สพฉ.) ซึ่งการเบิกจ่ายตามสิทธิประโยชน์ยูเซปพลัสกำหนดให้เฉพาะสถานพยาบาลประเภทที่รับผู้ป่วยค้างคืนเท่านั้น เป็นการเบิกจ่ายตามรายการที่กำหนด (Fee Schedule) โดยสถานพยาบาลต้องดำเนินการตามระบบ Pre-Authorize ของ สพฉ. และยืนยันตัวตนการใช้สิทธิ Authentication Code ของ สปสช.

 2. กลุ่มผู้ป่วยสีเขียวที่ไม่มีอาการหรือมีอาการเล็กน้อย ค่าบริการให้เบิกจ่ายจากกองทุนรักษาพยาบาลของผู้ป่วยที่มีสิทธิอยู่ตามเงื่อนไขตามสิทธิประโยชน์ของกองทุนนั้น โดยในส่วนของผู้ป่วยสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สิทธิบัตรทอง 30 บาทหรือสิทธิ สปสช.) สถานพยาบาลสามารถให้การดูแลทั้งบริการผู้ป่วยนอกแยกกักตัวที่บ้าน (เจอ แจก จบ) ตามนโยบายกระทรวงสาธารณสุข และบริการดูแลผู้ป่วยที่บ้านและในชุมชน Home Isolation / Community Isolation) และบริการ Hospitel  

บริการผู้ป่วยนอกแยกกักตัวที่บ้าน สถานพยาบาลสามารถเบิกจ่ายค่ารักษาเบื้องต้นแบบเหมาจ่าย 1,000 บาท/ราย ครอบคลุมบริการให้คำแนะนำแยกกักตัวที่บ้าน ยารักษาโรคโควิด-19 ได้แก่ ยาฟ้าทะลายโจร ยาฟาวิพิราเวียร์ (เบิกจาก สธ.) และยารักษาตามอาการ เป็นต้น และการติดตามอาการผู้ป่วยหลังครบ 48 ชั่วโมง รวมถึงการส่งต่อหากผู้ป่วยมีอาการแย่ลง และค่าบริการให้คำปรึกษาแบบเหมาจ่าย 300 บาท สำหรับกรณีที่ผู้ป่วยมีการโทรศัพท์กลับมาภายหลัง 48 ชั่วโมง ซึ่งอาจจะมาจากอาการไม่ดีขึ้นหรือจำเป็นต้องส่งต่อ 

บริการดูแลผู้ป่วยที่บ้านและในชุมชน (Home Isolation / Community Isolation) และบริการ Hospitel เป็นการเบิกจ่ายค่าบริการเหมาจ่าย โดยครอบคลุมค่าบริการดูแลผู้ป่วย ทั้งค่าอาหาร 3 มื้อ การประเมินและติดตามอาการ การให้คำปรึกษา นอกจากนี้ยังมีค่าอุปกรณ์ในการดูแลและติดตามสัญญาณชีพ ค่ายาที่เป็นการรักษาโรคโควิด-19 และค่า Chest X-ray กรณีที่มีความจำเป็น โดยกรณีให้บริการรักษาและติดตาม 1-6 วัน เป็นจำนวน 6,000 บาท และกรณีให้บริการรักษาและติดตาม 7 วันขึ้นไป เป็นจำนวน 12,000 บาท  
 
ส่วนค่าบริการตรวจหาเชื้อทั้งแบบ ATK และ RT-PCR ของผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงทุกสิทธิเพื่อตรวจคัดกรองและเข้าสู่การรักษานั้น ยังคงเบิกจ่ายจาก สปสช. ตามหลักเกณฑ์บริการก่อนหน้านี้ ซึ่งรัฐบาลยังคงให้การสนับสนุนบริการนี้ให้กับคนไทยทุกคนทุกสิทธิรักษาพยาบาล 

“หลักเกณฑ์การเบิกจ่ายค่าบริการโควิด-19 ใหม่นี้ จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 16 มีนาคมนี้เป็นต้นไป ซึ่งทุกสถานพยาบาลจะต้องใช้หลักเกณฑ์ใหม่นี้ในการดูแลผู้ป่วยและเบิกจ่ายค่าบริการ พร้อมกันนี้ขอให้สถานพยาบาลที่ไม่ได้อยู่ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติทำข้อตกลงร่วมให้บริการดูแลผู้ป่วยโควิด-19 สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เพื่อที่ สปสช.จะได้ส่งผู้ป่วยเข้ารับบริการ และให้การเบิกจ่ายค่าบริการเป็นไปอย่างถูกต้อง” นพ.การุณย์ กล่าว   

ทั้งนี้จากการประชุมชี้แจงเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2565 มีโรงพยาบาลเอกชน 85 แห่งแจ้งความประสงค์ร่วมทำข้อตกลงให้บริการผู้ติดเชื้อโควิด-19 กลุ่มสีเขียว 

 

 

 *สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org