สปสช.คาด 1-2 เดือนจัดหาสถานพยาบาลรองรับผู้ป่วยบัตรทอง กระทบคลินิกโกงงบถูกยกเลิกสัญญา แจงมี 30%ที่ต้องรักษาอาการป่วยต่อเนื่อง

 

เมื่อวันที่ 23 ก.ย.นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เป็นประธานเปิด “การประชุมรับฟังการชี้แจงแนวทางการรองรับการให้บริการและการจ่ายชดเชยค่าบริการทางการแพทย์ สำหรับประชาชนสิทธิว่าง กรณีหน่วยบริการประจำถูกยกเลิกสัญญาในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือบัตรทอง โดยมีผู้แทนหน่วยบริการภาครัฐในพื้นที่กรุงเทพมหานครเข้าร่วม  รวม 135 แห่ง

โดย นพ.ศักดิ์ชัย กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุเพิกถอนสัญญาคลินิกเอกชนจากการตรวจสอบพบการเบิกจ่ายผิดปกติและทุจริต  ทำให้เกิดผลกระทบ 2 ส่วน คือ ขวัญกำลังใจของผู้ให้บริการ ซึ่งรู้สึกว่าทำไมปัญหาถึงรุนแรง และไม่มีการดูแลกัน ต้องชี้แจงว่าเรื่องนี้เป็นความจำเป็นของประเทศ เพราะเรื่องทุจริตเป็นสิ่งที่เรายอมไม่ได้ เงินทุกบาททุกสตางค์ในกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเป็นเงินภาษีประชาชน เมื่อพบหลักฐานต้องเพิกถอนสัญญา แต่สิ่งที่ตามมาคือภาระงานที่เพิ่มขึ้นในเวลาอันสั้นของหน่วยบริการที่ยังอยู่ในระบบและต้องแบกรับ ส่วนใหญ่เป็นหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งหลายแห่งไม่ได้เตรียมตัวกับผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับการสื่อสารที่ไม่ทันต่อสถานการณ์ ทำให้หน่วยบริการรองรับไม่เข้าใจ ดังนั้นจึงนำมาสู่การประชุมชี้แจงความร่วมมือในวันนี้เพื่อดูแลประชาชนสิทธิว่างให้เกิดความเข้าใจตรงกัน และสร้างความเชื่อมั่นให้กับหน่วยบริการและประชาชน

 

"ขอยืนยันว่า สปสช.จะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุดในการจัดหาหน่วยบริการใหม่รองรับประชาชนในคลินิกที่ถูกยกเลิกสัญญาภายใน 1-2 เดือน เพื่อให้ระบบบริการสู่ภาวะปกติ ทั้งนี้ต้องชี้แจงว่าในจำนวนประชาชน 8 แสนคน ที่ขึ้นทะเบียนคลินิกที่ถูกเพิกถอนสัญญา 64 แห่ง มีเพียง 30% ที่เจ็บป่วยและต้องเข้ารับบริการต่อเนื่อง แต่เมื่อมีข่าวนี้ได้ทำให้ประชาชนตื่นตระหนกขึ้นเพราะเป็นสิทธิของเขา ไม่ใช่ทั้งหมดที่เข้ารับบริการ" เลขาฯ สปสช.กล่าว

    

ด้าน นพ.การุณย์ คุณติรานนท์ รองเลขาธิการสปสช. กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สปสช.เองไม่คาดฝันและไม่คิดว่าจะมีคลินิกเอกชนที่ต้องถูกยกเลิกสัญญามากขนาดนี้ ทำให้หน่วยบริการภาครัฐต้องเข้ามาอุ้มเพื่อให้ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติอยู่ได้ อย่างไรก็ตาม สปสช.ก็ไม่อยากทำรุนแรงจนเกิดผลกระทบเป็นวงกว้าง ขณะนี้ยังมีคลินิกเอกชนอีก 106 แห่ง ที่พบการเบิกค่าบริการผิดปกติที่รออยู่อีก สุดท้ายเชื่อว่าคลินิกชุมชนอบอุ่นจะถูกออกจากระบบเกือบหมด โดยในรอบแรก 2 แสนคน สปสช.สามารถจัดหาหน่วยบริการทดแทนได้ แต่รอบที่ 2 จำนวน 8 แสนราย สปสช.กำหนดเป็นสิทธิว่าง เพราะหน่วยบริการรัฐเองก็เต็มที่รับไม่ไหว แต่สิทธิว่างนี้ถือว่าประชาชนยังมีสิทธิบัตรทองอยู่ ขอให้หน่วยบริการช่วยดูแลหากมีประชาชนสิทธิว่างในกลุ่มนี้ไปรับบริการ โดย สปสช.จะจ่ายชดเชยค่าบริการให้ ทั้งนี้จากข้อมูลผู้รับผลกระทบนั้น ประมาณ 30% มีการเจ็บป่วยที่ต้องรับการรักษาส่วนหนึ่ง  โดยตัวเลขการรับบริการไม่ได้มากและน่ากลัวอย่างที่คิด 

 

เมื่อช่วงเวลา 11:00 น. วันเดียวกัน นพ.ศักดิ์ชัย พร้อมด้วย นพ.ปริญญา ชมวงษ์ รองผอ.สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เขต13 กทม. ลงพื้นที่สำนักงานเขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร บริเวณจุดลงทะเบียนสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เพื่อดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการที่ สปสช.ยกเลิกสัญญาคลินิกเอกชน 64 แห่ง ด้วย