สำนักงานพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ กระทรวงสาธารณสุข รายงานผลการสำรวจการปฏิบัติตามมาตรการ “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” เพื่อลดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ครั้งล่าสุดวันที่ 6 เม.ย. 2563 พบว่าตัวเลขต่างๆมีแนวโน้มดีขึ้นเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้า โดยเฉพาะสัดส่วนผู้ที่ออกจากบ้านลดลงจาก 35.4 % จากวันก่อนหน้า ลงมาเหลือ 33.1% สอดคล้องกับสัดส่วนผู้ที่อยู่บ้าน (ไม่มีคนมาหา) เพิ่มขึ้นจาก 52.5 % จากวันก่อนหน้า เป็น 54.6%
ทำแบบสอบถามทุกวันได้ ทีนี่
โดยหากพิจารณาตัวเลขเป็นรายวันตั้งแต่วันที่ 2-6 เม.ย. 2563 จะพบแนวโน้มดังนี้
ทั้งนี้ หากพิจารณาสาเหตุที่ทำให้ผู้คนต้องออกจากบ้านในวันที่ 6 เม.ย. พบว่าจำนวนผู้ที่ต้องออกไปทำงานลดลงจาก 35.8% เหลือ 28.3% และอีก 73.4% ออกจากบ้านด้วยเหตุจำเป็นอื่น เช่น ซื้ออาหาร-ของใช้ ทำธุรกรรม โดยใช้บริการขนส่งสาธารณะ 5.4% และได้พูดคุยหรืออยู่ใกล้กับคนนอกบ้านน้อยกว่า 2 เมตรเฉลี่ยอยู่ที่ 7 คน
ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่าจำนวนการโดยสารโดยรถสาธารณะลดลงจากช่วงต้นๆของการสำรวจ จากเดิมที่มีสัดส่วนประมาณ 10% ลงมาเหลือประมาณ 5% ในช่วงนี้
สำหรับวิธีการป้องกันตนเองของผู้ที่ออกจากบ้าน มีสัดส่วนการปฏิบัติตามมาตรการต่างๆดังนี้
นอกจากนี้ สัดส่วนผู้ที่ไปสถานที่เสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 ในรอบ 14 วันที่ผ่านมามีแนวโน้มลดลงอยู่ที่ 32.3%, 30.5%, 29.4%ม 27.6% และ 28.0% ตามลำดับ และสัดส่วนผู้ที่จะกักตัว 14 วันและหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับคนในบ้านหากคิดว่าตนเองมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นจาก 87-88% จากช่วงแรกของการสำรวจเป็น 89.6% ในขณะนี้
- 18 views