สำนักงานพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ กระทรวงสาธารณสุข รายงานผลการสำรวจการปฏิบัติตามมาตรการ “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” เพื่อลดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ครั้งล่าสุดวันที่ 5 เม.ย. 2563 พบว่าตัวเลขต่างๆ มีแนวโน้มดีขึ้นเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้า โดยเฉพาะสัดส่วนผู้ที่ออกจากบ้านลดลงจาก 45.9% จากวันก่อนหน้า ลงมาเหลือ 35.4 % สอดคล้องกับสัดส่วนผู้ที่อยู่บ้าน (ไม่มีคนมาหา) เพิ่มขึ้นจาก 43.2 % จากวันก่อนหน้า เป็น 52.5 %
ทำแบบสอบถามทุกวันได้ ทีนี่
โดยหากพิจารณาตัวเลขเป็นรายวันตั้งแต่วันที่ 2-5 เม.ย. 2563 จะพบแนวโน้มดังนี้
เข้าใจว่าควรปฏิบัติตัวอย่างไร ออกนอกบ้าน อยู่บ้านแต่มีคนมาหา อยู่บ้านไม่มีคนมาหา
2 เม.ย.63 91.8% 52.7 % 10.1 % 37.2 %
3 เม.ย.63 91.8% 49.5 % 11.1 % 39.4 %
4 เม.ย.63 92.2% 45.9 % 10.9 % 43.2 %
5 เม.ย.63 93.1% 35.4 % 12.1 % 52.5 %
อย่างไรก็ดี เป็นข้อสังเกตว่า วันที่ 5 เม.ย. 2563 เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ ดังนั้นต้องติดตามตัวเลขในวันปกติว่าจะมีแนวโน้มอย่างไรต่อไป
ทั้งนี้ หากพิจารณาสาเหตุที่ทำให้ผู้คนต้องออกจากบ้านในวันที่ 5 เม.ย. พบว่า 35.8% ยังคงต้องออกไปทำงาน และอีก 65.8% ออกจากบ้านด้วยเหตุจำเป็นอื่น เช่น ซื้ออาหาร-ของใช้ ทำธุรกรรม โดยใช้บริการขนส่งสาธารณะ 5.8% และได้พูดคุยหรืออยู่ใกล้กับคนนอกบ้านน้อยกว่า 2 เมตรเฉลี่ยอยู่ที่ 7 คน
ขณะเดียวกัน จากการสำรวจวิธีการป้องกันตนเองของผู้ที่ออกจากบ้าน พบว่าลักษณะสัดส่วนการปฏิบัติตามมาตรการต่างๆมีแนวโน้มดีขึ้นทุกวัน โดยที่เห็นได้ชัดคือการเว้นระยะห่าง 1-2 เมตรเมื่อคุยกับผู้อื่น เพิ่มขึ้นเป็น 70.1 % และการระมัดระวังไม่เอามือจับหน้า จมูก ปาก เพิ่มขึ้นเป็น 65.3 %
2 เม.ย. 3 เม.ย. 4 เม.ย. 5 เม.ย.
มีระยะห่าง 1-2 เมตรเมื่อคุยกับผู้อื่นทุกครั้ง 59.3 % 62.2 % 63.6 % 70.1 %
ใส่หน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยทุกครั้ง 76.0 % 76.8 % 77.7 % 77.5 %
ล้างมือหรือใช้เจลแอลกอฮอล์ทุกครั้งหลังสัมผัสสิ่งของ 84.1 % 85.4 % 86.4 % 85.2 %
ระวังไม่เอามือจับหน้า จมูก ปากได้เป็นอย่างดีทุกครั้ง 56.5 % 59.4 % 61.7 % 65.3 %
นอกจากนี้ สัดส่วนผู้ที่ไปสถานที่เสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 ในรอบ 14 วันที่ผ่านมามีแนวโน้มลดลงอยู่ที่ 32.3%, 30.5%, 29.4% และ 27.6%ตามลำดับ และสัดส่วนผู้ที่จะกักตัว 14 วันและหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับคนในบ้านหากคิดว่าตนเองมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นจาก87-88% เป็น 89.3%
- 37 views