ถอดทุกคำ “อนุทิน” ย้าย “หมอธเรศ” เลขาฯ อย. เหตุปลดล็อกกัญชากัญชงจริงหรือ?

รัฐมนตรี สธ.ประกาศชัดโยกย้าย ขรก.สธ.เป็นการสลับหมุนเวียนตามปกติ ไม่มีพรรคพวก หมอชนบท เลือกจากคุณสมบัติเท่านั้น เผยเห็นศักยภาพหมอธเรศ เคลียร์ปัญหาสบส. ผู้รับเหมาหนีงาน

หลังจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ที่ประชุมมีมติเห็นชอบตามที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอแต่งตั้งข้าราชการดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2562 จำนวน 4 ราย คือ 1.นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เป็นอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ  2.นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) 3.นพ.ณรงค์ สายวงศ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เป็นรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข 4.นพ.ยงยศ ธรรมวุฒิ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรมป้องกัน) เป็นรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข

อ่านเพิ่มเติม ครม.เห็นชอบย้ายผู้บริหาร สธ. 4 ราย ‘หมอธเรศ’ จาก อย.ไปเป็นอธิบดี สบส.

เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2562 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวภายหลังมีการลงนามโยกย้ายผู้บริหารกระทรวงฯ ที่เป็นประเด็นที่สุดคือ การย้าย นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) ไปเป็นอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ(สบส.) เนื่องจากกรณีการปลดล็อกกัญชากัญชงหรือไม่ว่า เป็นการโยกย้ายปกติสลับหมุนเวียนระดับ 10 มีรองปลัดเกษียณ 1 ท่าน ย้ายอีก 1 ท่าน  อธิบดีเกษียณ 1 ท่าน เราก็รีบทำเพื่อให้งานกระทรวงไม่หยุดชะงักและรู้ตัวกันก่อน ซึ่งคนที่ได้รับการแต่งตั้งใหม่ก็จะได้เตรียมตัว ผู้ใต้บังคับบัญชาก็จะได้เตรียมเสนออะไรต่อไป

ผู้สื่อข่าวถามว่าแต่การโยกย้ายครั้งนี้ออกมาในช่วงที่มีประกาศเรื่องปลดล็อกสารสกัดกัญชาและกัญชง นายอนุทิน กล่าวว่า เป็นเรื่องฟลุกๆ ไม่มีอะไร ซึ่งการแต่งตั้งครั้งนี้ครบหมดแล้ว

เมื่อถามว่าเพราะเหตุใดถึงเลือก นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) ไปดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ(สบส.) นายอนุทิน กล่าวว่า นพ.ธเรศ เคยเป็นรองอธิบดี สบส. มาก่อน ขณะที่นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม ก็เคยดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการ อย.เช่นกัน ก็เป็นการสับเปลี่ยนหมุนเวียนงานตามหน้าที่ ตนมีภาระเรื่องอสม.เยอะแยะ ในเรื่องของการพัฒนาศักยภาพ อสม. ค่าตอบแทน อสม. เรื่องให้อสม.เป็นหมอประจำบ้าน เรื่องการสนับสนุนการบริการสุขภาพ และเรื่องการจัดการผู้รับเหมาที่หนีงาน ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ สบส. ซึ่งจริงๆ ถือเป็นงานที่ นพ.ธเรศ ต้องร้องจ๊ากแน่นอน แต่ตนเห็นศักยภาพ เพราะเป็นงานที่ต้องไปดำเนินการ

“ขอยืนยันว่า การโยกย้ายครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับกัญชา เรื่องกัญชาเป็นเรื่องแค่ 1 ใน 20-30 นโยบายของกระทรวงฯ ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องนี้เลย” นายอนุทิน กล่าว

เมื่อถามว่า มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากทางพรรคภูมิใจไทยว่า การโยกย้ายครั้งนี้ เนื่องจากพบว่ากรณี อย.ยังมีประชาชนที่ยังเชื่อมั่นน้อยกับประเด็นกัญชา นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่มีข้อมูลนี้จากพรรค ขอยืนยันว่าไม่ได้มีอะไร เป็นการโยกย้ายปกติเท่านั้น เรื่องกระทรวงสาธารณสุขไม่เกี่ยวกับทางพรรค

ผู้สื่อข่าวถามว่าการย้ายนพ.ไพศาล ไปเป็นเลขาธิการ อย. เราต้องการให้ทำเรื่องไหนเป็นพิเศษ นายอนุทิน กล่าวว่า ทุกคนมีหน้าที่ เป็นการสลับสับเปลี่ยนตามวาระ และเป็นการหมุนเวียนการทำงานตามภารกิจ ซึ่งนพ.ธเรศ เคยเป็นรองปลัดสธ. และไปเป็นเลขาธิการ อย. แต่ยังไม่มีคำว่า อธิบดีนำหน้าเลย ก็เลยให้มีคำว่าอธิบดีนำหน้า และในอนาคต นพ.ไพศาล ก็เหมือนกัน เป็นรองปลัดแล้ว ไปเป็นเลขาธิการ อย. ก็ต้องมีคำนำหน้าอธิบดี เรียกว่าจะได้รู้งานทุกด้าน สนับสนุนงานบริการสุขภาพ การแพทย์ การบริหาร และอีกปีค่อยไปแข่งเป็นปลัดสธ.

“จริงๆเลยนะว่า การแต่งตั้งโยกย้ายเป็นไปตามวาระ แทนคนเกษียณ และเป็นบุคลากรที่ผมคิดว่าเหมาะสม และสามารถทำงานทีเป็นประโยชน์ และเป็นการเรียนรู้งานในทุกๆด้าน แต่ละท่านยังมีอายุราชการอีกตั้ง 3-4 ปี และเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมของท่านก็จะได้มีคุณสมบัติที่เพียบพร้อม และสิ่งที่ผมพยายามทำคือ ซี 10 คือ ซี10 ไม่ใช่ซี 10 ต้องเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงฯเท่านั้นถึงจะโต หรือสาธารณสุขนิเทศก์เท่านั้นถึงจะโต อย่างผู้ทรงคุณวุฒิยังมาเป็นรองปลัดได้ ผมไม่ได้ทำให้รองปลัดไปเป็นผู้ตรวจฯ ซะเมื่อไหร่ เพราะฉะนั้นทุกคนได้รับความไว้วางใจให้ทำงานเต็มที่ คนก็มาพูดว่าเป็นเพราะสายหมอชนบท ผมไม่ได้ลูบไปไม่มีหางแล้วตั้งใครซะเมื่อไหร่ ผมดูคุณสมบัติทุกท่าน” นายอนุทิน กล่าว

รองนายกฯและรัฐมนตรีว่า การสธ. กล่าวอีกว่า อย่างนพ.ยงยศ ธรรมวุฒิ เคยเป็นสสจ. 2-3 จังหวัด และมาเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ และเคยเป็นเลขานุการรัฐมนตรีฯ ก็มีคุณสมบัติเพียงพอ ส่วนนพ.ณรงค์ สายวงศ์ ก็เป็นรองอธิบดี มาทางสายกรมอนามัย และมาเป็นผู้ตรวจ นพ.ธเรศ ก็ไม่ต้องพูดถึงคุณสมบัติเพียบ การไป สบส.ก็เหมือนกลับบ้านเก่า รู้หมดแล้ว ส่วนนพ.ไพศาล ก็เช่นกัน ผมขอแค่ว่า ทำอะไรต้องทำเร็ว ลดอำนาจรัฐ เพิ่มอำนาจประชาชน เพื่อปากท้องประชาชน เมื่อเช้านพ.ไพศาล มาขอบคุณผม ผมยังบอกว่า ขอให้อย.ทำระบบเพื่อประชาชน มาขอขึ้นทะเบียนก็ต้องให้รวดเร็ว ส่วนนพ.ธเรศ แค่เรื่องผู้รับเหมาหนีงาน ก็หนักแล้ว อย่างนพ.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วย สธ. สรุปมาพบมีผู้รับเหมาหนีงานเป็น 10 งานเลย ต้องไปจัดการ