กองทุนบัตรทอง ปี 62 ดูแลผู้ติดเชื้อเอชไอวี/ผู้ป่วยเอดส์ต่อเนื่อง รัฐบาลจัดงบหนุนกว่า 3 พันล้านบาท จัดบริการป้องกันติดเชื้อเอชไอวี รักษาผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ และสนับสนุนส่งเสริมจัดบริการ พร้อมเพิ่มบริการตรวจวินิจฉัยแลปพื้นฐานเอกซเรย์คัดกรองวัณโรคผู้ติดเชื้อรายใหม่ทุกราย ก่อนรับยาต้านไวรัส
นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา
นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า ไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่ประสบความสำเร็จในการดูแลผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์ให้เข้าถึงการรักษา รวมถึงการป้องกันและลดอัตราผู้ติดเชื้อรายใหม่ โดยรัฐบาลได้ให้ความสำคัญและสนับสนุนผ่านกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติตั้งแต่ปี 2548 มาอย่างต่อเนื่อง และในปีงบประมาณ 2562 นี้รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณจำนวน 3,046.31 ล้านบาท เพื่อเป็นงบบริการผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์ ซึ่งคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) โดยมี นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน ได้เห็นชอบให้มีการบริหารจัดสรรงบบริการผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์ ดังนี้
1.บริการดูแลรักษาด้วยยาต้านไวรัสและบริการที่เกี่ยวข้องจำนวน 2,808.315 ล้านบาท
2.บริการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีจำนวน 200 ล้านบาท
3.การสนับสนุนและส่งเสริมการจัดบริการสำหรับผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์จำนวน 38 ล้านบาท
นพ.ศักดิ์ชัย กล่าวว่า ในส่วนของงบบริการดูแลรักษาด้วยยาต้านไวรัสและบริการที่เกี่ยวข้องนั้น บอร์ด สปสช.ได้จัดสิทธิประโยชน์การรักษาและบริการที่จำเป็นอย่างครอบคลุม เพื่อให้ผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์ได้รับการดูแลอย่างมีมาตรฐานและมีคุณภาพชีวิตที่ดี ตั้งแต่การรักษาด้วยยาต้านไวรัส ยารักษาภาวะไขมันในเลือดสูงจากการรับประทานยาต้านไวรัส การตรวจชันสูตรทางห้องปฏิบัติการเพื่อวินิจฉัยหรือติดตามการรักษา การให้คำปรึกษาและตรวจหาการติดเชื้อเอชวีโดยสมัครใจ (VCT) บริการดูแลรักษาอย่างเป็นองค์รวม สนับสนุนถุงยางอนามัยสำหรับผู้ที่เข้ารับบริการให้คำปรึกษาและ VCT และการตรวจคัดกรองและการตรวจยืนยันไวรัสตับอักเสบซี เป็นต้น
ส่วนบริการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี บอร์ด สปสช.ได้จัดสรรงบประมาณเป็น 2 ส่วน คือ บริการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี จำนวน 172 ล้านบาท เน้นการดำเนินการเชิงรุก ตั้งแต่การเข้าถึง เข้าสู่บริการ การตรวจเอชไอวี รักษา การคงอยู่ในระบบ (RRTTR: Reach-Recruit-Test-Treat-Retain) และบริการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อเอชไอวีหรืองานศูนย์องค์รวม จำนวน 28 ล้านบาท ขณะที่ในส่วนการสนับสนุนและส่งเสริมการจัดบริการสำหรับผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์นั้น เป็นการจัดงงบประมาณเพื่อพัฒนาคุณภาพระบบการดูแลรักษาผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์ อาทิ การติดตามการกินยาต้านไวรัสอย่างต่อเนื่องเพื่อให้สามารถกดปริมาณไวรัสได้และป้องกันการดื้อยา การลดอัตราการเสียชีวิตของผู้ติดเชื้อเอชไอวีในปีแรกหลังเริ่มรักษาด้วยยาต้านไวรัส เป็นต้น
นพ.ศักดิ์ชัย กล่าวว่า สำหรับในปีงบประมาณ 2562 นี้ เพื่อเป็นการดูแลและเพิ่มคุณภาพชีวิตให้กับผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์ บอร์ด สปสช.ได้เพิ่มสิทธิประโยชน์การตรวจทางห้องปฏิบัติการ โดยผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่จะได้รับการตรวจทางห้องปฏิบัติการพื้นฐาน (แลปพื้นฐาน) และได้รับการตรวจเอกซเรย์คัดกรองวัณโรค ก่อนรับยาต้านไวรัสทุกราย ซึ่งจะทำให้ผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์ได้รับการวินิจฉัยโดยละเอียด ในกรณีที่พบอาการป่วยจะเข้าสู่กระบวนการรักษาโดยเร็ว
- 7 views