ศูนย์วิชาการเฝ้าระวังและพัฒนาระบบยา (กพย.) รายงานว่า หากเรายังใช้ยาต้านแบคทีเรียอย่างพร่ำเพรื่อกันอย่างทุกวันนี้ ในปี ค.ศ. 2050 (พ.ศ.2593) ปัญหาเชื้อดื้อยาจะรุนแรงเท่าภัยก่อการร้าย ทำคนตาย 3 วินาทีต่อคน*

ยังไม่สายเกินไป หากทุกภาคส่วนร่วมกันตระหนักถึงปัญหาเชื้อดื้อยา และลงมือแก้ไขให้ทันท่วงที

1. ประชาชน ไม่ใช้ยาต้านแบคทีเรียเหมือนเป็นขนม

2. บุคลากรทางการแพทย์ จ่ายยาต้านแบคทีเรียเมื่อมีหลักฐานการติดเชื้อแบคทีเรีย ไม่ใช้ในโรคติดเชื้อไวรัส ไม่จ่ายยาต้านแบคทีเรียที่ออกฤทธิ์กว้างเกินความจำเป็น

3. รัฐบาล แบ่งปันงบประมาณอย่างพอเพียง เพื่อปฏิบัติให้บรรลุผลตามยุทธศาสตร์แห่งชาติที่ได้วางไว้

4. โรงเรียนแพทย์ เภสัชกร ทันตแพทย์ พยาบาล และ สัตวแพทย์ สอนศิษย์ของตนให้ตระหนักรู้ถึงปัญหาเชื้อดื้อยา และมีสมรรถภาพ (competency) ที่จะใช้ยาต้านแบคทีเรียได้อย่างสมเหตุผล

5. สื่อสารมวลชน เกาะติดข่าวเหล่านี้และนำเสนอให้เกิดความตระหนักรู้แก่ประชาชนทุกครัวเรือน

6. กระทรวงศึกษาธิการ บรรจุเนื้อหาเหล่านี้ไว้ในหลักสูตรตั้งแต่ชั้นอนุบาลถึงมหาวิทยาลัย

*แหล่งข้อมูลอ้างอิง

Global antibiotics "revolution" needed

Review on Antimicrobial Resistance  

ขอบคุณแหล่งที่มา: ศูนย์วิชาการเฝ้าระวังและพัฒนาระบบยา (กพย.)