ม.พะเยา ผลิตทันตแพทย์เพิ่ม แก้ขาดแคลนในภาคเหนือตอนบน

นสพ.คมชัดลึก : มหาวิทยาลัยพะเยา เดินหน้าผลิตทันตแพทย์รองรับการขาดแคลนในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน แจงทันตแพทย์ 1 คน ต้องดูแลประชากร 9,800 คน มุ่งพัฒนาหลักสูตรทันตแพทย์เพื่อชุมชน สร้างทันตกรรมครอบครัวดูแลสุขภาพช่องปากทั้งครอบครัวไม่ใช่เฉพาะรายบุคคล ฝากรัฐบาลจัดสรรงบประมาณ-เพิ่มบุคลากรอาจารย์ด้านทันตแพทยศาสตร์

รศ.ทพ.ดร.คมสรรพ์ บุญยสิงห์ คณบดีคณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา (มพ.) เปิดเผยว่า มพ.เปิดคณะทันตแพทยศาสตร์มาปีนี้เป็นปีที่ 2 เพื่อผลิตทันตแพทย์เพิ่มตามความต้องการของประเทส ตอบสนองนโยบายการพัฒนาสุขภาพของประชาชนของรัฐบาล ในการแก้ปัญหาการกระจายบุคลากรทางวิทยาศาสตร์สุขภาพ และทางด้านสาธารณสุขของประเทศเป็นรูปธรรม ที่สำคัญยังเป็นการรองรับความต้องการของทันตแพทย์ภาคเหนือตอนบน 4 จังหวัด ได้แก่ พะเยา แพร่ น่าน และเชียงราย ซึ่งขณะนี้มีความขาดแคลนทันตแพทย์อย่างมาก

โดยมีสัดส่วนทันตแพทย์ต่อประชากรประมาณ 1 ต่อ 9,800 คน โดยหลักสุตรการจัดการเรียนการสอนของ มพ.นอกจากดำนินการตามกรอบของสภาวิชาชีพ และสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษาแล้ว ยังสอดคล้องกับปณิธานของมหาวิทยาลัยในการเป็นปัญหาเพื่อความเข้มแข็งของชุมชน มุ่งเน้นสร้างทันตกรรมครอบครัว ที่ทันตแพทย์ไม่ใช่เพียงทำหน้าที่ตรวจสุขภาพช่องปากเฉพาะรายบุคคลเท่านั้น แต่ต้องลงพื้นที่ให้ความรู้ดูแลทั้งครอบครัว ตั้งแต่ระดับเด็กก่อนวัยเรียนไปจนถึงกลุ่มผู้สูงอายุ

รวมถึงติดตามงานด้านทันตกรรม ทำงานทั้งเชิงรุกและรับ หลักสูตรทันตแพทย์ของ มพ.จะเน้นการทำงานดูแลคนในชุมชนเป็นหลัก โดยตั้งแต่ชั้นปีที่ 1 ไปจนถึงปีสุดท้าย นิสิตต้องลงพื้นที่ดูแลคนในชุมชน ทำความเข้าใจและสอบถามว่าคนในชุมชนต้องการทันตแพทย์แบบไหน เพื่อให้นิสิตได้เข้าถึงการทำงานของทันตแพทย์ ที่ไม่ใช่เพียงอุดฟัน ถอนฟัน แต่ต้องเป็นบุคคลที่ทำงานหนัก เสียสละเวลา และรู้จักดูแลผู้ป่วย รวมถึงทำงานร่วมกับคนในชุมชน สร้างทัศนคติที่ดีต่อนิสิตทันตแพทย์ ดังนั้นนิสิตทันตแพทย์ มพ.ที่เปิดรับปีละ 30 คน จะเป็นทันตแพทย์ที่รู้จักทำงานเพื่อชุมชน ทันตกรรมครอบครัว

คณบดีคณะทันตแพทยศาสตร์ มพ.กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ทาง มพ.มีนโยบายในการเพิ่มจำนวนสัดส่วนของผู้สอนของคณะมากขึ้น โดยได้ประสานความร่วมมือไปยังสถานฝึกปฏิบัติงาน โรงพยาบาลต่างๆ คาดว่าอนาคตจะสามารถเพิ่มจำนวนทันตแพทย์ให้แก่ประชาชนภาคเหนือตอนบนได้ และรองรับความต้องการทันตแพทย์ใน่วนภูมิภาคที่ยังไม่ขาดแคลนอยู่มาก เช่น บางอำเภอมีทันตแพทย์เพียงคนเดียวแต่ต้องดูแลคนทั้งอำเภอ จึงอยากให้รัฐบาลเล็งเห็นความสำคัญในการสนับสนุน ส่งเสริมทั้งในด้านงบประมาณ และสถานฝึกปฏิบัติงาน รวมถึงอาจารย์ผู้สอนด้านทันตแพทย์ เพื่อเพิ่มจำนวนทันตแพทย์รองรับดูและผู้ป่วย เพราะสุขภาพช่องปากมีความสำคัญอย่างมากในการใช้ชีวิตของผู้คน

ที่มา : นสพ.คมชัดลึก ฉบับวันที่ 19 ส.ค. 2558 (กรอบบ่าย)