องค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (ยูนิเซฟ) ร่วมกับภาคีเครือข่าย เสนอให้รัฐบาลผลักดันนโยบายเงินอุดหนุนเลี้ยงดูเด็กเล็กสำหรับเด็กอายุ 0-6 ขวบ ในอัตรา 600 บาท ต่อคนต่อเดือนแบบถ้วนหน้า เพื่อเป็นสวัสดิการขั้นพื้นฐานและสร้างโอกาสพัฒนาศักยภาพอย่างเท่าเทียม
 
ล่าสุด เมื่อวันที่ 31 มี.ค. คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เสนอแผนพัฒนาเด็กประถมวัย ว่าด้วยโครงการเงินอุดหนุนเด็กแรกเกิด เดือนละ 400 บาทต่อคน เพื่อเป็นการจัดสวัสดิการขั้นพื้นฐานให้กับครอบครัวที่ยากจน และเพื่อให้พ่อแม่มีเงินสวัสดิการดูแลเด็กให้มีคุณภาพต่อไปในอนาคต โดยทดลองและประเมินผล 1 ปี เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2558 ถึง 30 ก.ย.2559 ซึ่งเด็กต้องมีสัญชาติไทย โดยมีงบประมาณ 600 ล้านบาท
 
เมื่อเร็วๆ นี้ ยูนิเซฟนำคณะสื่อมวลชนลงพื้นที่เยี่ยมชมศูนย์พัฒนาเด็กเล็กวัดสระทรงศิลา ต.สะอาด อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น และศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านหนองจาน ต.นาหนองทุ่ม อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น เพื่อดูความเป็นอยู่ของเด็กปฐมวัย
 
บรรยากาศภายในพื้นที่ศูนย์พัฒนาเด็ก เล็กวัดสระทรงศิลา มีบริเวณพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง จัดวางโต๊ะอาหารและมีอาหารกลางวันสำหรับเด็ก รวมถึงจัดพื้นที่สำหรับทำกิจกรรม เช่น สนามเด็กเล่น ห้องเรียน และสื่ออุปกรณ์การเรียนรู้ครบครัน ปัจจุบันศูนย์แห่งนี้ต้องดูแลเด็กประมาณ 80 คน โดยมีครูพี่เลี้ยงเด็ก 5 คน
 
ส่วนภายในพื้นที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านหนองจาน เป็นพื้นที่โล่งท่ามกลางหุบเขา มีพื้นที่ห้องเพียงไม่กี่ตารางเมตรซึ่งเป็นทั้งห้องเรียน ห้องนั่งเล่น ห้องกินข้าว ขณะที่อุปกรณ์เครื่องเล่นในสนามเด็กเล่นอยู่ในสภาพเก่าทรุดโทรม ปัจจุบันศูนย์แห่งนี้ต้องดูแลเด็ก 15 คนต่อครูพี่เลี้ยงเด็ก 1 คน
 
วิสุทธิ์ ตันตินันท์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายนโยบายสังคม องค์การยูนิเซฟ กล่าวว่าเงินอุดหนุนการเลี้ยงดูเด็กวัย 0-6 ขวบ นั้นเป็นรูปแบบการช่วยเหลือที่หลายประเทศทั่วโลกช่วยสนับสนุนให้ครอบครัวสามารถดูแลเด็ก ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นสวัสดิการ ขั้นพื้นฐาน เพื่อให้เกิดการพัฒนาศักยภาพทั้งด้านอารมณ์ สังคม โภชนาการ แก่เด็กวัย 0-6 ขวบอย่างเท่าเทียม
 
"จากการสำรวจในประเทศไทยพบว่าเด็กเล็กมีทั้งหมดกว่า 4 ล้านคนที่ได้รับเงินสนับสนุนเฉพาะกลุ่มผู้ปกครองที่เป็นแรงงานในระบบประมาณ 1.26 ล้านคน คิดเป็น ร้อยละ 23.1 เท่านั้น ส่วนเด็กอีกกว่า 3 ล้านคนเป็นบุตรของแรงงานที่ไม่ได้อยู่ในระบบประกันสังคมและไม่มีความมั่นคงทางรายได้"
 
ด้าน สุมิตร โสภามา รักษาการหัวหน้าศูนย์พัฒนาเด็กเล็กวัดสระทรงศิลา จ.ขอนแก่น ให้ความเห็นว่าอยากให้ขยายอายุเด็กในการรับเงินอุดหนุนเด็กเล็กตั้งแต่อายุ 0-6 ขวบ และได้รับเงินอุดหนุนเพิ่มขึ้นเป็นเดือนละ 600 บาท เพราะภาระการเลี้ยงดูแลเด็กจะต้องดูแลและ ส่งเสริมพัฒนาการเด็กอย่างต่อเนื่อง
 
อำนวย รุ่งแจ้ง ครูประจำศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านหนองจาน จ.ขอนแก่น บอกว่าอยากให้เด็กได้รับเงินอุดหนุนเด็กและมีสิทธิเท่าเทียมกันทั้งหมด ไม่ควรจำกัดจำนวนเด็ก อายุ หรือถิ่นที่อยู่ของเด็ก เพราะถึงแม้เงินจำนวนเพียง 400 บาทจะดูน้อยสำหรับคนอื่น แต่เงินจำนวนนี้สำคัญมากสำหรับเด็ก
 
"เงินอุดหนุนสำหรับเด็กเล็กสำคัญมาก เพราะเด็กที่อยู่ห่างไกลเมืองยังเข้าไม่ถึงระบบการศึกษาและระบบของภาครัฐ เด็กบางส่วนที่เราไม่สามารถเข้าถึงตัวเด็กได้นั้นจำเป็นต้องมีเงินใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เราอยากให้เด็กๆ มีโภชนาการการกินอยู่ที่ดีและมีสุขภาพดี เทียบเท่ากับเด็กทั่วไป"
 
พิชัย ราชภัณฑารี ผู้แทนองค์การยูนิเซฟประจำประเทศไทย กล่าวว่านับเป็นการเริ่มต้นที่ดีมากและยินดีที่รัฐบาลไทยตัดสินใจอนุมัติโครงการเงินอุดหนุนเลี้ยงดูเด็กเล็กเพื่อช่วยแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำของเด็กในประเทศไทย ซึ่งครอบครัวยากจนและเกือบยากจนที่มีบุตรอายุ 0 ถึง 1 ขวบ จะได้รับเงินอุดหนุนรายเดือนคนละ 400 บาท โครงการนี้จะช่วยสนับสนุนให้เด็กๆ มีโภชนาการที่ดีขึ้น และจะได้รับการพัฒนาด้านสาธารณสุขและการศึกษาในระยะยาวได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยจะมีเด็ก 135,000 คนในประเทศไทยที่ได้รับประโยชน์จากโครงการนี้
 
เด็กที่มีอายุน้อยที่สุดเป็นหนึ่งในกลุ่มที่อ่อนแอและเปราะบางที่สุดในสังคม เด็กจำนวนมากยังไม่ได้รับการคุ้มครองทางสังคมใดๆ เลย โครงการเงินอุดหนุนเลี้ยงดูเด็กเล็กจะช่วยเติมเต็มช่องว่างนี้ โดยการให้หลักประกันขั้นต้นในการคุ้มครองเด็กในช่วงขวบปีแรกของชีวิตการดำเนินโครงการนี้นับเป็นก้าวย่างที่สำคัญซึ่งจะนำไปสู่การปกป้องสิทธิเด็กทุกคนในประเทศไทยให้หลุดพ้นจากความยากจนและพัฒนาได้อย่างเต็มศักยภาพ
 
"ยูนิเซฟจะร่วมงานกับรัฐบาลและพันธมิตร อื่นๆ อย่างใกล้ชิดเพื่อให้การดำเนินโครงการนี้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ"
 
ที่มา : ข่าวสด ฉบับวันที่ 6 เม.ย. 2558 (กรอบบ่าย)