โวย รพ.เอกชนเอาเปรียบผู้ป่วย หักเงินเคลมเจ็บป่วยฉุกเฉินสปสช.

ญาติผู้ป่วย ร้อง รพ.เอกชนย่านเกียกกาย เอาเปรียบ หักเงินเคลมเจ็บป่วยฉุกเฉิน สปสช. โดยที่ไม่รู้เรื่อง อ้างแปลกหักจากส่วนลด แถมหักภาษี ณ ที่จ่าย 1 % แต่ขอใบเสร็จกลับไม่ให้ แถ เป็นค่าดำเนินการ

26 ก.พ. 58 นางสาวจีรวรรณ หัสชัยฤทธิ์ ในฐานะบุตรสาวของนายพิชิต หัสชัยฤทธิ์ ผู้ป่วยเลือดออกในสมองที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง เปิดเผยว่า สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2557 ตนได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ห้องสมุดเพื่อประชาชนย่านเกียกกาย ว่านายพิชิต หัสชัยฤทธิ์ อายุ 61 ปี ซึ่งเป็นบิดาของตนเกิดเป็นลม ล้มหมดสติระหว่างที่กำลังอ่านหนังสือที่ห้องสมุดดังกล่าว ตนจึงขอให้ช่วยนำตัวบิดาเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในย่านนั้น เพราะเห็นว่าบิดาอายุมากแล้วเกรงจะเป็นอันตรายจึงให้เข้าโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด และเมื่อตนเดินทางไปถึงโรงพยาบาลได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลว่าบิดามีภาวะเลือดออกในสมอง จำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดเร็วที่สุดเพื่อรักษาชีวิต พร้อมกับแจ้งยอดค่ารักษาพยาบาลอยู่ที่ 200,000 บาท แต่เนื่องจากผู้ป่วยมาด้วยอาการฉุกเฉิน อีกทั้งยังเป็นผู้ถือสิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (บัตรทอง) จึงสามารถเบิกคืนได้ที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) แต่ขอให้ตนสำรองค่าใช้จ่ายไปก่อน

นางสาวจีรวรรณ กล่าวต่อว่า หลังได้รับการแจ้งจากเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเอกชนดังกล่าวแล้วตนได้พยายามหาเงินมาสำรองจ่ายค่ารักษาให้บิดาอยู่ แต่ได้มาเพียง 180,000 บาท เท่านั้น ทางโรงพยาบาลจึงบอกว่าให้จ่ายค่ารักษาพยาบาลเท่าจำนวนเงินที่หามาได้ ส่วนที่เหลือจะทำเรื่องให้ว่าเป็นการลดราคาพิเศษ จากนั้นจึงได้ย้ายตัวบิดามารักษาต่อที่โรงพยาบาลวชิระ อย่างไรก็ตาม ต่อมาเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2558 ได้รับแจ้งจากโรงพยาบาลเอกชนแห่งแรกว่าให้เข้าไปรับเช็คเงินที่ สปสช.อนุมัติมาให้แล้วแต่ไม่ได้บอกว่ายอดเท่าไหร่ ตนจึงได้สอบถามไปที่สายด่วน สปสช. 1330 ทราบว่ามีการอนุมัติงบมาให้จำนวน 53,325.35 บาท แต่ปรากฏว่าเมื่อเข้าไปรับเช็คจริงๆ กลับได้รับเช็คมูลค่า 44,551.10 บาท ซึ่งเป็นยอดไม่ตรงกัน จึงได้สอบถามกับเจ้าหน้าที่การเงินของโรงพยาบาลเอกชนดังกล่าวก็ได้รับคำตอบว่า เพราะมีการหักยอดที่ลดพิเศษให้ไปก่อนหน้านั้น นอกจากนี้ยังพบว่ามีการหักเงินอีกร้อยละ 1 เป็นภาษี ณ ที่จ่าย

“ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงเอายอดที่เคยให้กับเราเพื่อเป็นส่วนลดมาหักออกอย่างนี้ แบบนี้คนไข้ไม่มีทางรู้เลย ว่ายอดจริงๆ เป็นอย่างไร และที่หักออกร้อยละ 1 บอกว่าเป็นการหักภาษี ณ ที่จ่ายนั้นก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน เพราะพอดิฉันถามว่ามีใบเสร็จหรือไม่ เผื่อจะเอาไปเดินเรื่องกับทางกรมสรรพกร เจ้าหน้าที่กลับตอบอีกอย่างว่าเป็นการหักค่าดำเนินเรื่อง คือถ้าเกิดรพ.เอกชนสามารถหักเช็คที่ สปสช.ให้กับคนไข้ได้ เราก็ไม่รู้เลยว่าเราเป็นหนี้ เคลียร์จบอย่างไร ไม่รู้ยอดจริงๆ เป็นอย่างไร นี่เป็นช่องทางทุจริตหรือไม่จึงทำ เพราะหลังจากนั้นก็สอบถามไปที่สายด่วนกรมสรรพากรก็ได้รับคำอธิบายว่าการจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลไม่ต้องหักภาษีแต่อย่างใด” นางสาวจีรวรรณ กล่าว และว่า ตนขอเรียกร้องให้ทางโรงพยาบาลจ่ายตามความเป็นจริง เพราะการทำเช่นนี้เหมือนกับว่าตนโอนเอาเปรียบ