สปสช.เผยผลการให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงหลังดำเนินการได้ 5 สัปดาห์ พบกลุ่มเป้าหมายได้รับวัคซีนกว่า 3.4 แสนราย คิดเป็น 10 % โดย 3 จังหวัดที่มีผลงานการให้วัคซีนแก่ประชาชนสูงสุด 3 อันดับแรก คือ หนองบัวลำภู ชัยนาท และ ลำพูน ขณะที่ในระดับเขต เขต 8 อุดรธานี สามารถให้บริการได้สูงสุด รองลงมาคือ เขต 2 พิษณุโลก และเขต 11 สุราษฎร์ธานี
นายแพทย์วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) กล่าวว่า ตามที่สปสช.ได้ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข จัดบริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ประจำปี 2557 จำนวน 3,000,000 โด๊ส งบประมาณกว่า 400 ล้านบาท ฉีดให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงทุกสิทธิการรักษาฟรี พร้อมกันทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม - 31 กรกฎาคม 2557 ที่โรงพยาบาลภาครัฐ และเอกชนที่อยู่ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ นั้น
เลขาธิการสปสช. กล่าวว่า ผลการดำเนินงาน 5 สัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม – 8 มิถุนายน 2557 สามารถให้บริการประชาชนไปแล้วทั้งสิ้น 347,804 ราย คิดเป็นร้อยละ 10.23 ของวัคซีนที่จัดหา 3 ล้านโด๊ส ขณะที่ผลการให้บริการฉีดวัคซีนเทียบกับวัคซีนที่จัดหาสำหรับประชาชน พบว่า สปสช.เขต 8 อุดรธานี มีการให้บริการสูงสุด คือ ร้อยละ 15.70 จากจำนวนวัคซีนที่จัดหา 228,864 โด๊ส สามารถให้บริการฉีดได้ 35,924 โด๊ส อันดับ 2 คือ เขต 2 พิษณุโลก ร้อยละ 10.57 จากจำนวนวัคซีนที่จัดหา 164,379 โด๊ส สามารถให้บริการฉีดได้ 17,389 โด๊ส และอันดับ 3 คือ เขต 11 สุราษฎร์ธานี ร้อยละ 10.28 จากจำนวนวัคซีนที่จัดหา 197,482 โด๊ส สามารถให้บริการฉีดได้ 20,309 โด๊ส และในระดับจังหวัดนั้น พบว่า จ.หนองบัวลำภู มีการให้บริการสูงสุด คือ ร้อยละ 33.70 จากจำนวนวัคซีนที่จัดหา 20,026 โด๊ส สามารถให้บริการฉีดได้ 6,749 โด๊ส อันดับ 2 คือ จ.ชัยนาท ร้อยละ 28.44 จากจำนวนวัคซีนที่จัดหา 18,065 โด๊ส สามารถให้บริการฉีดได้ 5,138 โด๊ส และอันดับ 3 คือ จ.ลำพูน ร้อยละ 28.10 จากจำนวนวัคซีนที่จัดหา 21,581 โด๊ส สามารถให้บริการฉีดได้ 6,064 โด๊ส
“ทั้งหมดเป็นข้อมูลที่ได้จากลงบันทึกของหน่วยบริการเข้ามาที่สปสช. แต่คาดว่าผลการดำเนินการจริงจะมากกว่านี้ เพราะยังมีข้อมูลจำนวนหนึ่งที่ยังไม่ได้ลงบันทึกของหน่วยบริการ เยื่องจากยังอยู่ในช่วงสัปดาห์ที่ 5 ของการให้บริการ และเหลือเวลาอีก 8 สัปดาห์ในการดำเนินการให้ครบตามกลุ่มเป้าหมาย” เลขาธิการสปสช. กล่าว และว่า ในช่วงระยะเวลาที่เหลือ จะสามารถให้บริการฉีดวัคซีนแก่ประชาชนกลุ่มเป้าหมายได้ครบตามจำนวนที่ตั้งไว้ เพื่อลดการเจ็บป่วยด้วยโรคไข้หวัดใหญ่หรือภาวะแทรกซ้อนจากโรคไข้หวัดใหญ่ได้ ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ขณะที่ภาครัฐก็ลดภาระการรักษาพยาบาลลงได้เช่นกัน
ทั้งนี้ วัคซีนที่ฉีดเป็นชนิดที่ทำจากเชื้อตาย รวม 3 สายพันธุ์ คือ ชนิดเอ เอช 1 เอ็น1 (A H1N1) ชนิดเอ เอช 3 เอ็น2 (A H3N2) และชนิดบี (B) ซึ่งเป็นเชื้อไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลที่พบบ่อยในไทยและทั่วโลกและวัคซีนยังใช้ได้ผลดี เนื่องจากเชื้อไม่มีปัญหากลายพันธุ์ แต่วัคซีนชนิดนี้ไม่สามารถป้องกันโรคไข้หวัดนกทั้งสายพันธุ์เก่าและใหม่ได้ ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมาย 4 กลุ่ม ฟรีในทุกสิทธิการรักษา ทั้งสิทธิข้าราชการ ประกันสังคม และหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ดังนี้ 1.ทุกกลุ่มอายุที่มีโรคเรื้อรังสำคัญ 7 โรค ได้แก่ โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง หอบหืด หัวใจ หลอดเลือดสมอง ไตวาย ผู้ป่วยมะเร็งได้รับยาเคมีบำบัด และเบาหวาน 2.ผู้สูงอายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไป 3.เด็กอายุ 6 เดือนถึง 2 ปี 4.หญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์มากกว่า 4 เดือนขึ้นไป ทั้ง 4 กลุ่มเป้าหมาย จำนวน 3,000,000 โด๊ส สำหรับกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ของกระทรวงสาธารณสุข ที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลจากผู้ป่วย 400,000 คน อยู่ในความรับผิดชอบของกรมควบคุมโรค ประชาชนในกลุ่มเสี่ยงดังกล่าวสามารถเข้ารับบริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม-31 กรกฎาคม 2557 ได้ที่โรงพยาบาลรัฐและเอกชนที่อยู่ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่สายด่วน สปสช. 1330 หรือสายด่วนกรมควบคุมโรค 1422
- 1 view