นายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า องค์การอนามัยโลกได้กำหนดให้วันที่ 31 พฤษภาคมทุกปี เป็นวันงดสูบบุหรี่โลก เพื่อรณรงค์ส่งเสริมให้ประชาชนทั่วโลก ลด ละ เลิกสูบบุหรี่ โดยในปี 2557 นี้กำหนดประเด็นการรณรงค์ว่า “บุหรี่: ภาษียิ่งเพิ่มคนตายยิ่งลด” (Raise Taxes on Tobacco) เนื่องจากการใช้มาตรการภาษีควบคุมการบริโภคยาสูบให้ผลในการลดปริมาณนักสูบ โดยเฉพาะวัยรุ่นที่ยังไม่มีรายได้ การรณรงค์ครั้งนี้ จะช่วยให้ประชาชนทั่วโลกตระหนักถึงอันตรายและพิษภัยของบุหรี่ ซึ่งทำให้ผู้สูบบุหรี่ ทั่วโลกเสียชีวิตปีละประมาณ 6 ล้านคน และยังทำให้ผู้ที่ไม่สูบบุหรี่แต่ต้องสูดควันบุหรี่มือสองเสียชีวิตปีละ 6 แสนคน รวมแล้วสูงเป็นอันดับสองรองจากความดันโลหิตสูง หากไม่เร่งร่วมมือกันแก้ไขอย่างจริงจัง คาดว่าใน พ.ศ.2573 จะทำให้คนทั่วโลกเสียชีวิตเพิ่มปีละ 8.3 ล้านคน ในส่วนของประเทศไทยในปี 2552 มีผู้เสียชีวิต 50,710 คน เพิ่มขึ้นจากปี 2547 ร้อยละ 11 มากที่สุดคือถุงลมปอดโป่งพอง มะเร็งปอด โรคหัวใจและหลอดเลือด โดยเป็นชายมากกว่าหญิง 6 เท่าตัว 
       
ด้านนายแพทย์โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค  กล่าวว่า จากการสำรวจสถานการณ์การบริโภคยาสูบครั้งล่าสุด ( ปี 2556 ) พบว่าประชากรไทยอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป ใช้ผลิตภัณฑ์ยาสูบปัจจุบันชนิดมีควัน จำนวน 10.7 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 19.94 จำแนกเป็น เพศชายจำนวน 10.19 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 39.0 และเพศหญิงจำนวน จำนวน 0.57 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 2.05 โดยเพศชายมีสัดส่วนการใช้ผลิตภัณฑ์ยาสูบชนิดมีควันสูงกว่าเพศหญิงมากจึงจำเป็นต้องนำมาตรการเพิ่มภาษีซึ่งเป็นมาตรการที่มีประสิทธิภาพและส่งผลต่อการลดปริมาณการบริโภคยาสูบที่ชัดเจนมาเป็นมาตรการหลัก