สยามรัฐ - นายแพทย์อภิชัย มงคล อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวถึงภารกิจหลักของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ว่า ภารกิจกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์มีอยู่ 3 ภารกิจหลัก ภารกิจแรกจะเป็นการพัฒนาศักยภาพห้องปฏิบัติการหรือห้องแล็บของประเทศไทย ทั้งโรงพยาบาลรัฐและโรงพยาบาลเอกชนให้มีคุณภาพมาตรฐานเพิ่มมากขึ้นรวมถึงพัฒนารับรองคุณภาพห้องปฏิบัติการด้านการแพทย์และสาธารณสุข โดยห้องแล็บของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์จะเป็นคำตอบสุดท้ายในกรณีเกิดโรคระบาดภายในประเทศที่ต้องการความแม่นยำสูง และการวินิจฉัยเรื่องที่สำคัญๆ
ภารกิจที่สอง คือ การคุ้มครองผู้บริโภค ซึ่งแตกต่างจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ตรงที่ อย.จะบังคับใช้กฎหมาย และสุดท้ายก็จะเป็นการตรวจจับและปรับแต่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์จะเป็นการตรวจ เพื่อเตือนและพัฒนา ตัวอย่างเช่น ตรวจแล้วพบว่ามีปัญหา ถ้าไม่ใช่ปัญหาร้ายแรง เบื้องต้นจะเตือนก่อนและขอให้ปรับปรุงแก้ไข ถ้าปรับปรุงแก้ไขไม่ถูกก็จะบอกวิธีที่ถูกต้องให้ จากนั้นจะไปตรวจอีก 2-3 รอบ ถ้าครบ 3 รอบ แล้วยังกระทำผิดอยู่จะแจ้งให้ อย.เข้าไปดำเนินการ เพื่อให้สังคมปลอดภัยและเป็นการคุ้มครองผู้บริโภคอีกทางหนึ่ง
ภารกิจสุดท้ายคือการวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ทางด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ โดยเน้นการสร้างชุดทดสอบที่ใช้ได้เองแบบง่ายๆ และสะดวกรวดเร็ว แทนชุดทดสอบแบบเดิมที่ต้องใช้เครื่องมือและทรัพยากรมาก โดยได้ร่วมมือกับต่างประเทศผลิตชุดทดสอบขึ้นมาใช้เองภายในประเทศเช่น ชุดทดสอบเชื้ออหิวาตกโรค (Cholera) เชื้อชิเกลลา(Shigella) เชื้อซัลโมเนลลา (Salmonella) รวมถึงทำการวิจัยสกัดสารสมุนไพรออกมาใช้ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จะเร่งผลักดันให้มีการรับรองคุณภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ยาและเครื่องสำอางที่ใช้ในประเทศและเพื่อส่งออก เนื่องจากต่างประเทศได้เรียกร้องให้มีมาตรฐานสูงขึ้นในการที่จะนำยาและเครื่องสำอางที่ผลิตในประเทศไทย โดยเฉพาะเครื่องสำอางที่มีสมุนไพรเป็นส่วนประกอบ รวมถึงเน้นเรื่องความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม และทางทะเล หรือพื้นที่ที่ประชาชนต้องสัมผัสบ่อยๆ เช่น สารตะกั่ว ปรอท สารแคดเมี่ยม โดยจะทำการสำรวจเป็นพื้นฐานไว้ก่อน เพื่อนำมาเปรียบเทียบกับช่วงที่เกิดเหตุการณ์จริง เช่น เรื่องของน้ำมันรั่ว เป็นต้นพร้อมเร่งทำการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รู้จักบทบาทและหน้าที่ของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์มากยิ่งขึ้น รวมถึงให้ผู้บริหารระดับสูงเข้าใจศักยภาพของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์มากขึ้นด้วย สำหรับแผนงานในปี 2557 อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จะมุ่งเน้นไปที่นโยบายของกระทรวงสาธารณสุขในเรื่องสุขภาพดีเริ่มต้นที่นี่ โดยจะทำการพัฒนาสติปัญญาเด็กไทย ด้วยชุดทดสอบซึ่งเป็นความชำนาญของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ โดยจะวัดระดับของไอโอดีนในปัสสาวะให้กับกลุ่ม 3 ช่วงอายุ ได้แก่ กลุ่มหญิงตั้งครรภ์ กลุ่มเด็กประถม 6 และกลุ่มผู้สูงอายุ เพื่อส่งข้อมูลสะท้อนไปให้แต่ละจังหวัด ได้ทราบถึงสถานการณ์ไอโอดีนและแนวทางแก้ไขโดยนำข้อมูลมาเรียบเรียงเปรียบเทียบ จังหวัดที่อยู่ระดับล่างก็ต้องหนีบวย จังหวัดที่มีการพัฒนาได้ดีอยู่แล้ว ก็จะไปพัฒนาเรื่องอื่นต่อไป เพื่อให้คนไทยมีสุขภาพดีและยั่งยืน
ด้วยประสบการณ์และความรู้ในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนอย่างเต็มเปี่ยมจากการเป็นตัวแทนของกระทรวงสาธารณสุขทำงานในอาเซียนมากว่า 5 ปี อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จึงเร่งส่งเสริมให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ซึ่งมีความสามารถระดับสูงที่สุดในอาเซียน และเป็น 1 ใน 4 ของเอเซียและแปซิฟิก รวมถึงเป็นตัวแทนขององค์การอนามัยโลกในการตรวจประเมินห้องปฏิบัติการต่างๆ ให้เป็นผู้นำในเรื่องของห้องปฏิบัติการอย่างแท้จริงด้วยเชื่อว่าการที่ไทยเป็นผู้นำห้องปฏิบัติการจะทำให้ไทยมีส่วนเกี่ยวข้องในการสร้างมาตรฐานและแนวทางเพื่อไม่ให้ไทยถูกกีดกันทางการค้า และเพื่อให้ไทยได้เสนอสินค้าที่ดีมีคุณภาพกับอาเซียน ที่สำคัญต้องการให้บริการเรื่องห้องปฏิบัติการมีส่วนช่วยเหลือประเทศเพื่อนบ้านในเรื่องของการทดสอบต่างๆ ให้กับประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่มอาเซียน โดยเฉพาะประเทศที่มีฐานะการเงินไม่ดี เพื่อเป็นฐานลูกค้าของประเทศไทยในอนาคต
ที่มา: หนังสือพิมพ์สยามรัฐ วันที่ 28 ตุลาคม 2556
- 29 views