สปสช.เผยผลการให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงหลังดำเนินการได้ 15 สัปดาห์ พบประชาชนกลุ่มเสี่ยงได้รับวัคซีนกว่า 2.2 ล้านราย คิดเป็น 74 % ระบุข้อมูลคนไทยป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ปีละกว่า 9 แสนราย กลุ่มเสี่ยง เช่น สูงอายุ ป่วยโรคเรื้อรังเมื่อป่วยจะมีอาการรุนแรง ทางแก้ดีที่สุดคือฉีดวัคซีนป้องกัน เชิญประชาชนกลุ่มเสี่ยงรับวัคซีนได้ที่รพ.จนถึง 30 ก.ย.นี้
นายแพทย์วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) กล่าวว่า ตามที่สปสช.ได้ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข จัดบริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ประจำปี 2556 จำนวน 3,000,000 โด๊ส งบประมาณกว่า 360 ล้านบาท ฉีดให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงทุกสิทธิการรักษาฟรี พร้อมกันทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 27 พฤษภาคม - 30 กันยายน 2556 ที่โรงพยาบาลภาครัฐ และเอกชนที่อยู่ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ นั้น จากผลการดำเนินงาน 15 สัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 27 พฤษภาคม – 6 กันยายน 2556สามารถให้บริการได้ทั้งสิ้น 2,229,104 คน คิดเป็นร้อยละ 74.30 ของวัคซีนที่จัดหาสำหรับประชาชน 3,000,000 โด๊ส ดังนี้
1.กลุ่มเป้าหมายที่คณะกรรมการระบุ (ผู้สูงอายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไป ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ได้แก่ โรคปอดอุดกั้น หอบหืด หัวใจ หลอดเลือดสมอง ไตวาย ผู้ป่วยมะเร็งที่ได้รับการรักษาด้วยยาเคมีบำบัด และเบาหวาน) 1,911,125 คน
2.กลุ่มเป้าหมายเพิ่มเติมที่กรมควบคุมโรคแนะนำ (หญิงมีครรภ์ ผู้พิการทางสมอง บุคคลอายุ 6 เดือนถึง 2 ปี และผู้ป่วยธาลัสซีเมีย ภูมิคุ้มกันบกพร่อง รวมถึงผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่มีอาการ) 101,412 คน
3.ให้บริการสำหรับกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ บุคลากรที่เสี่ยงต่อการรับเชื้อไข้หวัดนก และประชาชนที่เดินทางไปแสวงบุญ ณ นครเมกกะ ประเทศซาอุดิอาระเบีย 216,567 คน
นายแพทย์วินัย กล่าวต่อว่า ในแต่ละปีคนไทยติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลมากกว่า 900,000 ราย เจ็บป่วยรุนแรงถึงขั้นปอดบวม 26,637 ราย และเสียชีวิตอย่างน้อยปีละ 150 ราย โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงสูงที่เมื่อป่วยแล้วจะมีอาการรุนแรง ได้แก่ กลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เป็นต้น ในประเทศที่พัฒนาแล้วส่วนใหญ่มีนโยบายสนับสนุนให้ประชาชนกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงที่จะได้รับเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ และเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง ได้แก่ กลุ่มหญิงตั้งครรภ์ กลุ่มเด็ก กลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มผู้ที่มีโรคเรื้อรังและกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ การฉีดวัคซีนจึงเป็นมาตรการที่สำคัญอีกประการหนึ่งในการป้องกันโรคล่วงหน้าที่จะช่วยลดการป่วยและการเสียชีวิตในกลุ่มเสี่ยงสูงดังกล่าว
นายแพทย์วินัย กล่าวว่า ในช่วงระยะเวลาที่เหลือ จะสามารถให้บริการฉีดวัคซีนแก่ประชาชนกลุ่มเป้าหมายได้ครบตามจำนวนที่ตั้งไว้ เพื่อลดการเจ็บป่วยด้วยโรคไข้หวัดใหญ่หรือภาวะแทรกซ้อนจากโรคไข้หวัดใหญ่ได้ ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ขณะที่ภาครัฐก็ลดภาระการรักษาพยาบาลลงได้เช่นกัน ทั้งนี้วัคซีนไข้หวัดใหญ่ที่ฉีดในปีนี้ เป็นวัคซีนรวม 3 สายพันธุ์ คือชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 (A H1N1) ชนิดเอ เอช 3 เอ็น 2 (A H3N2) และชนิดบี (B)
ทั้งนี้ สปสช.ในฐานะผู้สนับสนุนด้านวัคซีนได้ประสานงานกับกระทรวงสาธารณสุขให้สถานพยาบาลในสังกัดฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ให้กลุ่มเป้าหมายตามที่กำหนด รวมถึงการประสานงานกับอปท.ในการนำกลุ่มเป้าหมายไปรับวัคซีน สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดที่สายด่วน สปสช. โทร.1330 กรมควบคุมโรค โทร.1422 และขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงสามารถไปขอรับบริการฉีดได้ที่โรงพยาบาลภาครัฐ และเอกชนที่อยู่ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ จนถึง 30 กันยายน 2556
- 4 views