ดันลูกหลายคนมีสิทธิ์เบิก'สปส.'ขยายสงเคราะห์บุตรจนถึง20ปี

"กรรมาธิการฯ" เอาใจแม่ลูกอ่อน เตรียมดันสิทธิประโยชน์ประกันสังคม ท้องได้ไม่จำกัด และเบิกได้ทันทีที่เข้าสู่ระบบ สปส. พร้อมขยายกรอบการสงเคราะห์บุตรไม่เกิน 20 ปี

คณะกรรมการพิจารณาปรับปรุงและพัฒนากฎหมายด้านสวัสดิการสังคม ได้จัดประชุมเรื่องการยกร่าง พ.ร.บ.ประกันสังคม (ฉบับที่...) พ.ศ.... มีนางรัชฎาภรณ์ แก้วสนิท ที่ปรึกษา กรรมาธิการฯ, นายชาลี ลอยสูง คณะกรรมาธิการฯ, นายสมเกียรติ ฉายะศรีวงศ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน, ดร.อารักษ์ พรหมมณี รองเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม ภาคประชาชน และผู้ที่เกี่ยวข้อง

โดยนางรัชฎาภรณ์ แก้วสนิท ที่ปรึกษากรรมาธิการฯ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า กรณีที่ผู้ประกันตนมีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนกรณีคลอดบุตรมาตรา 65 จากเดิมที่กำหนดให้เพียงแค่ 2 คนนั้น ตนจะไปผลักดันให้ได้รับเงินชดเชยโดยไม่จำกัดจำนวนครั้งในการคลอด โดยสามารถเบิกได้ตั้งแต่วันแรกของการเข้าสู่ระบบประกันสังคม จากเดิมที่กำหนดให้ผู้ที่มีสิทธิรับเงินชดเชยได้ต้องจ่ายเงินเข้าระบบมาไม่ต่ำกว่า 7 เดือน นอกจากนี้ยังจะผลักดันสิทธิประโยชน์ในการสงเคราะห์บุตรตามมาตรา 75 โดยจากกฎหมายเดิมให้บุตรอายุไม่เกิน 15 ปี และได้ไม่เกิน 2 คน จะผลักดันให้สามารถรับสิทธิประโยชน์ได้จนอายุถึง 20 ปี โดยไม่จำกัดเพียงแค่ 2 คน

"มองว่ามันไม่มีเหตุผลที่บอกว่าให้เขาคลอดบุตรได้แค่ 2 คน ในเมื่อเขาก็เป็นผู้ประกันตนไปเรื่อยๆ และไม่มีกฎหมายอะไรที่ห้ามมีลูกเกิน 2 คน เพราะฉะนั้นตราบใดที่เขาเป็นผู้ประกันตน คุณเอาสิทธิอะไรไปห้าม ไปบอกเขาว่าใช้สิทธิเบิกได้แค่ 2 คน เพราะการที่เขาจะมีลูกสักคนก็ต้องดูที่ความสามารถในการเลี้ยงดู ไม่ใช่จะมาดูว่าจะเบิกค่าคลอดได้หรือไม่ เพราะถึงไม่มีค่าคลอดเขาก็ยังมีลูกได้อยู่ดีถ้าเขาพร้อม ดังนั้นคุณก็ไม่มีสิทธิมาจำกัดเขา เขาจะมีลูกกี่คน อายุไม่เกิน 20 ก็ให้เขา" นางรัชฎาภรณ์กล่าว และว่า ตนจะผลักดันตามนี้ ส่วนจะได้หรือไม่ได้ก็อยู่ที่การพิจารณาในวาระที่ 2 ของสภาผู้แทนราษฎร คือเป็นการพิจารณาเป็นรายมาตรา ซึ่งยังไม่ทราบว่าจะมีการประชุมเมื่อไหร่

นายชาลี ลอยสูง กรรมาธิการฯ กล่าวว่า การจำกัดให้ผู้ประกันตนที่มีสิทธิได้รับสิทธิประ โยชน์ในการคลอดบุตรต้องจ่ายเงินเข้าสู่ระบบมาแล้วไม่ต่ำกว่า 7 เดือนนั้น ถือว่าไม่ยุติธรรม เพราะถ้าเป็นเอกชนจะสามารถเบิกได้ตั้งแต่วันแรกที่เข้าสู่ระบบ ดังนั้นจึงอยากให้ผู้ประกันตนได้รับสิทธิประโยชน์ที่เท่าเทียมกัน นอกจากนี้ยังเป็นการส่งเสริมการมีบุตรด้วย เนื่องจากปัจจุบันจะเห็นว่าคนหนุ่มสาวไม่นิยมมีลูกกัน นอกจากนี้ยังอยากให้เพิ่มสิทธิประโยชน์ในมาตรา 63 เรื่องการส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรค โดยให้ตรวจสุข ภาพประจำปี เพราะแต่ละเพศ แต่ละช่วงอายุ จะมีปัญหาสุขภาพที่แตกต่างกัน.

ที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ วันที่ 17 กรกฎาคม 2556